MGR ออนไลน์ - เจ้าหน้าที่จีนเข้าพบ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างพม่าและจีน ตามการรายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์
การพบหารือดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กองกำลังร่วมตำรวจจากพม่าและจีนได้บุกเข้าค้นศูนย์หลอกลวงออนไลน์หลายแห่งในเมืองชายแดนในรัฐชานของพม่า ที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้มากกว่า 800 คน รวมถึงชาวจีน ตามการรายงานของสื่อที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ต้อนรับ เติ้ง ซีจุน ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการพม่าของกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในกรุงเนปีดอ เมื่อวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นปัญหาความสัมพันธ์ชายแดนของพม่าและจีนที่ซับซ้อน
แต่นักวิเคราะห์การเมืองและการทหารระบุว่าเติ้ง ซีจุน มาที่กรุงเนปีดอเนื่องจากด่านชายแดนยังไม่สามารถกลับมาเปิดได้เนื่องจากการต่อสู้ที่เพิ่มมากขึ้น
นับตั้งแต่จีนเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยการหยุดยิงระหว่างกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยที่เป็นพันธมิตรกันที่เรียกว่า พันธมิตรสามภราดรภาพเมื่อวันที่ 11 ม.ค. กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารอื่นๆ ได้เพิ่มความพยายามในการยึดดินแดนที่รัฐบาลทหารควบคุมอยู่ กองทัพเอกราชกะฉิ่น ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวได้เข้ายึดค่ายทหารเกือบ 60 แห่งเมื่อเดือน มี.ค. และเข้าควบคุมเส้นทางการค้าชายแดนบางส่วน และทางหลวงสายหลักอีกสายหนึ่งในรัฐกะฉิ่น
อดีตนายทหารที่ไม่ประสงค์ออกนามด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยกล่าวว่า การเปิดด่านชายแดนในรัฐชานเหล่านั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งรัฐบาลทหารและจีน ขณะเดียวกัน ก็ป้องกันไม่ให้กองทัพเอกราชกะฉิ่นใกล้ชิดสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น
“แน่นอนว่าพวกเขาต้องการเปิดด่านชายแดนอีกครั้ง การส่งออกของหยุนหนานส่วนใหญ่ไปยังพม่า แต่เป็นเรื่องยากมากที่จะบรรลุข้อตกลง อีกประเด็นหนึ่งคือรัฐบาลทั้งสองฝ่ายต้องป้องกันไม่ให้กองทัพเอกราชกะฉิ่นใกล้ชิดสหรัฐฯ ดังนั้นพวกเขามักพบและหารือกันเรื่องนี้” นักวิเคราะห์การเมือง ระบุ
ก่อนหน้านี้ เดเร็ก โชเลต์ ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าเขาได้พบหารือกับผู้นำกลุ่มติดอาวุธหลายคน รวมถึงตัวแทนจากกองทัพเอกราชกะฉิ่น
การต่อสู้ระหว่างกองทัพเอกราชกะฉิ่นและรัฐบาลทหารลุกลามตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเมื่อกลุ่มติดอาวุธเริ่มโจมตีค่ายทหารและทางหลวงใกล้เมือง Lwegel ที่อยู่ติดชายแดนจีน
ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและครอบครัวของพวกเขากว่า 300 คน ที่ติดอยู่ท่ามกลางการสู้รบพยายามที่จะหลบหนีลี้ภัยในจีน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ชายแดนจีนปฏิเสธ ชาวบ้านเมือง Lwegel กล่าว
ส่วนทางตอนใต้ของรัฐชาน มีกาสิโนหลายสิบแห่งที่มีชื่อเสียงอื้อฉาวจากการลักลอบนำพลเมืองจีนเข้ามาเป็นแรงงานผุดขึ้นในพื้นที่ชายแดน เช่นเมืองมูเซะ ซึ่งการกำจัดศูนย์หลอกลวงเหล่านี้เป็นประโยชน์ร่วมกันเพียงไม่กี่อย่างของรัฐบาลทหารและกลุ่มติดอาวุธ ที่ได้เนรเทศชาวจีนรวมกันมากกว่า 50,000 คน ระหว่างเดือน ต.ค.2566 ถึงเดือน มี.ค.2567 ฐานทำกิจกรรมผิดกฎหมาย
ศูนย์หลอกลวงกระจายอยู่ในพื้นที่ชายแดนของไทย พม่า และจีน โดยคนจากทั้ง 3 ประเทศถูกหลอกให้เข้ามาในขบวนการฉ้อโกงออนไลน์เหล่านี้
เมื่อวันจันทร์ สื่อที่สนับสนุนรัฐบาลทหารได้รายงานว่ากองกำลังตำรวจร่วมจากจีนและพม่าเข้าบุกค้นศูนย์หลอกลวงออนไลน์ใน 4 เขตของเมืองมูเซะ รัฐชาน จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 838 คน โดยในนั้นเป็นชาวจีน 352 คน
ในบรรดาชาวจีนเหล่านั้น มากกว่า 50 คน เป็นหัวหน้าแก๊งและผู้หลบหนี รายงานระบุโดยอ้างคำแถลงของเจ้าหน้าที่จีน และทางการได้เริ่มเนรเทศชาวจีน 352 คน ผ่านด่านชายแดนในเมืองมูเซะ แต่รายงานไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ในเหตุการณ์จับกุมดังกล่าว
ผู้อยู่อาศัยในเมืองมูเซะรายหนึ่งระบุว่า การบุกค้นเกิดขึ้น 3 วันติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. และดำเนินการอย่างลับๆ แต่ผู้อยู่อาศัยอีกรายกล่าวว่ามีชาวพม่าบางคนได้รับการแจ้งเตือนถึงการบุกโจมตีล่วงหน้า และสามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง
ขณะที่ชาวบ้านอีกรายหนึ่งเผยว่าการบุกโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จับกุมคน 11 คน ที่รวมถึงผู้บัญชาการกองพันทหารราบเบาที่ 290 ของพม่า และผู้นำกองกำลังทหารอาสาในท้องถิ่น ในเมืองรุ่ยลี่ มณฑลหยุนหนานของจีน พวกเขากล่าวว่าการโจมตีเมืองมูเซะ มุ่งเป้าไปที่คนที่เกี่ยวข้องกับ 11 คนที่ถูกจับในจีน
หล่า จ่อ ซอ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการจีน ตั้งข้อสังเกตว่าจีนกดดันให้รัฐบาลทหารจับกุมอาชญากรจีนบริเวณชายแดนฝั่งพม่านับตั้งแต่ความขัดแย้งในรัฐชานเริ่มต้นขึ้น แต่ทางการรับสินบนเพื่อเพิกเฉยต่อคำร้องขอ
“พวกเขาไม่สนใจที่จะดำเนินการกับแก๊งเหล่านี้ก่อนที่กลุ่มกบฏติดอาวุธจะเกิดขึ้นในประเทศ กองทัพกลัวความร่วมมือระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงพยายามเอาใจจีน” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ตัน โซ นาย นักวิจารณ์การเมือง กล่าวว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับเติ้ง ซีจุน และกองกำลังทหารในกรุงเนปีดอที่จะพยายามยุติความขัดแย้งในรัฐกะฉิ่น
“แรงกดดันของจีนจะส่งผลกระทบต่อกองทัพเอกราชกะฉิ่นเพราะฐานของพวกเขาอยู่ที่ชายแดน แต่พวกเขาไม่ได้ทำตามที่จีนพูดทุกอย่าง ผมคิดว่ามันจะไม่ง่ายนักที่พวกเขาจะเห็นด้วยกับกระบวนการสันติภาพเช่นเดียวกับกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ” ตัน โซ นาย กล่าว.