รอยเตอร์ - การนำเข้าอาวุธของเวียดนามเมื่อปีที่ผ่านมาชะลอตัวลง ในขณะที่เวียดนามพยายามกระจายแหล่งจัดหาอาวุธนอกเหนือไปจากรัสเซีย ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (11) ระบุ และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเวียดนามอาจมีความเสี่ยงท่ามกลางความขัดแย้งในภูมิภาค
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งสตอกโฮล์ม (SIPRI) ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา ไม่มีคำสั่งซื้อใหม่ที่สำคัญใดๆ จากเวียดนาม แม้ประเทศจะมีงบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับการนำเข้าอาวุธ
ข้อมูลระบุว่า การส่งมอบหลักคือเรือคอร์เวตที่ได้รับบริจาคจากอินเดีย ส่งผลให้การนำเข้าอาวุธในปี 2566 มีปริมาณต่ำที่สุด นับตั้งแต่ปี 2550 นอกเหนือไปจากปี 2563 ที่อยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19
ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและไต้หวัน และการปะทะกันบ่อยครั้งในทะเลจีนใต้ระหว่างเรือของจีนและเรือจากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค แต่เวียดนามยังขาดอาวุธสมัยใหม่ที่เพียงพอต่อการป้องกันตนเองในกรณีของสถานการณ์ความขัดแย้งขนาดใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันระบุ
รัฐบาลเวียดนามปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นถึงสาเหตุของการชะลอตัวดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายกลาโหมระบุในเดือน ม.ค.ว่า ประเทศบรรลุข้อตกลงหลายฉบับในงานแสดงสินค้าทางทหารในเดือน ธ.ค.2565 แต่กระทรวงกลาโหมไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
การไม่มีข้อตกลงที่เปิดเผยต่อสาธารณะอาจเป็นผลมาจากการเจรจาอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเวียดนามกำลังพิจารณาข้อเสนอที่แข่งขันกัน ซีมอน เวซแมน นักวิจัยอาวุโสของ SIPRI ระบุ
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วต้องการเรือรบ เครื่องบินรบ และโดรน ผู้เชี่ยวชาญระบุ เวียดนามมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่นำเข้าจากรัสเซียและอิสราเอล ซึ่งบางส่วนถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมปี 2562
เวียดนามกำลังพยายามที่จะปรับปรุงอุตสาหกรรมทางทหารของตนเอง แต่ยังไม่สามารถผลิตอาวุธขนาดใหญ่เช่นเครื่องบินหรือเรือได้
ข้อมูลของ SIPRI ระบุว่ารัสเซียที่เป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามมานานหลายทศวรรษ ได้ลดการส่งออกอาวุธทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา และเวียดนามกำลังพยายามที่จะจ่ายค่าอาวุธรัสเซียโดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ตามการระบุของแหล่งข่าวที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อเนื่องจากความอ่อนไหวของประเด็น
ฮานอยจัดงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในปี 2565 โดยกล่าวต่อสาธารณะว่าต้องการกระจายแหล่งอาวุธที่นอกเหนือไปจากมอสโก และยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเริ่มขึ้นหลังจากรัสเซียผนวกไครเมียในปี 2557 ตามข้อมูลสาธารณะ
แต่การหารือกับผู้ขายที่มีศักยภาพรายอื่นๆ ยังไม่ปรากฏผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
อิสราเอลที่เป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม ไม่ได้ขายอาวุธใดๆ ให้ฮานอยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ SIPRI แม้ว่าการส่งออกอาวุธทั่วโลกของอิสราเอลจะเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวก็ตาม
การเจรจาของเวียดนามกับผู้จัดหาอาวุธรายอื่นๆ ที่เป็นไปได้ ที่รวมถึงอินเดีย สหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเช็ก แม้ว่าจะมีความเข้มข้นขึ้นแต่ยังไม่มีข้อตกลงสำคัญใดๆ ยกเว้นเรือคอร์เวตจากอินเดีย ท่ามกลางปัญหาเกี่ยวกับต้นทุน และการบูรณาการเข้ากับคลังแสงที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสหภาพโซเวียต ผู้เชี่ยวชาญ กล่าว
สำหรับงานจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งที่ 2 ในกรุงฮานอยมีกำหนดจัดในเดือน ธ.ค.
ในระหว่างนี้ เวียดนามกำลังพึ่งพาการทูตเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีกับมหาอำนาจต่างๆ
“แต่หากไม่มีการจัดซื้อสำคัญใดๆ เวียดนามก็ยังคงเปราะบางอย่างมาก” เหวียน เท้ เฟือง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันของเวียดนามจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ในออสเตรเลีย กล่าว.


