คลิปกองทัพพม่าฝึกทหารใหม่ว่อนโซเชียล พบเป็นชาวโรฮิงญาถูกบังคับเกณฑ์

MGR ออนไลน์ - ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเน็ตพม่ากำลังให้ความสนใจกับคลิปวิดีโอหลายชิ้นที่ปรากฏอยู่บนสื่อสังคมออนไลน์ที่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่รัฐกำลังฝึกทหารให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาที่สถานที่แห่งหนึ่งในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า ท่ามกลางรายงานการบังคับเกณฑ์ทหารทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. รัฐบาลทหารได้ประกาศใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่ากฎหมายการรับราชการทหารของประชาชน ที่ส่งผลให้พลเรือนวัยหนุ่มสาวอพยพหลบหนีออกจากเมืองต่างๆ ของประเทศ หลายคนกล่าวว่าพวกเขาอยากจะออกจากประเทศหรือเข้าร่วมกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารในพื้นที่ช่ายแดนห่างไกล มากกว่าที่จะไปรับราชการในกองทัพที่ยึดอำนาจในการรัฐประหารปี 2564

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารอ้างว่าการเกณฑ์ทหารจะไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึงเดือน เม.ย. แต่สำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีรายงานว่าได้รับรายงานหลายฉบับที่ระบุว่าการบังคับเกณฑ์ทหารได้เริ่มขึ้นแล้ว

คลิปวิดีโอ 2 ชิ้นที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นกองกำลังทหารของรัฐบาลกำลังฝึกกลุ่มคนในชุดเครื่องแบบให้ใช้อาวุธปืน และกลุ่มคนอีกประมาณ 30 คนในสภาพเหนื่อยล้านั่งอยู่ในรถทหาร ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกโพสต์บนเว็บไซต์พร้อมกับคำอธิบายที่ระบุว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นชาวโรฮิงญา

คลิปวิดีโอชิ้นที่ 3 โพสต์เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เผยให้เห็นรัฐมนตรีกิจการชายแดนและความมั่นคงของรัฐยะไข่ กำลังเยี่ยมชมโรงฝึกแห่งหนึ่งที่มีคนในชุดเครื่องแบบอยู่หลายร้อยคน ซึ่งเชื่อว่าเป็นชาวโรฮิงญา

แม้สำนักข่าวที่รายงานเรื่องนี้จะไม่สามารถตรวจสอบเนื้อหาของวิดีโอได้อย่างอิสระ แต่รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลทหารได้บังคับเกณฑ์โรฮิงญาในรัฐยะไข่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และชาวบ้านกล่าวว่าคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่าสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ฝึกทหารอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของรัฐ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถระบุตำแหน่งได้อย่างเจาะจงก็ตาม

พวกเขากล่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ควบคุมตัวและเกณฑ์โรฮิงญาราว 700 คน จากเมืองบุติด่อง เมืองหม่องดอ และเมืองจอก์พยู รวมทั้งเมืองสิตตะเว เข้าฝึกทหาร นับตั้งแต่ประกาศเมื่อวันที่ 10 ก.พ. โดยมีเป้าหมายที่จะจัดตั้งกองทหารอาสา

ที่เมืองจอก์พยู ชาวบ้านระบุว่าการฝึกคืบหน้าไปสู่การใช้อาวุธปืน เนื่องจากพวกเขาได้ยินเสียงปืนดังในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

โรฮิงญาจำนวนมากอาศัยอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นภายในประเทศในเมืองจอก์พยู และเมื่อวันที่ 29 ก.พ. เจ้าหน้าที่รัฐได้รวบรวมชาวโรฮิงญาที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี รวม 107 คน ที่โกดังอาหารของค่ายหลังเก็บข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา

อดีตนายทหารที่ปัจจุบันให้คำแนะนำแก่ฝ่ายต่อต้านติดอาวุธที่เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอารยขัดขืนต่อต้านรัฐบาลทหาร ได้ตั้งคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลทหารจึงบังคับเกณฑ์ชาวโรฮิงญา ทั้งที่คนเหล่านี้ถูกปฏิเสธสถานะพลเมือง

“คนเหล่านี้ถูกบังคับและจัดการด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ต่อสู้ให้รัฐบาลทหารที่กำลังเผชิญกับความพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมือง” อดีตนายทหาร กล่าว

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาประมาณ 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในบังกลาเทศตั้งแต่ปี 2560 หลังจากพวกเขาถูกขับไล่ออกจากพม่าจากปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพ ส่วนโรฮิงญาอีก 630,000 คน ที่อาศัยอยู่ในพม่า ถูกระบุว่าเป็นบุคคลไร้สัญชาติ โดยถูกควบคุมอยู่ในค่ายพักต่างๆ และถูกจำกัดไม่ให้เคลื่อนไหวอย่างเสรีในรัฐยะไข่

นักรณรงค์ด้านสิทธิกล่าวว่า การเกณฑ์ชาวโรฮิงญาเข้าเป็นทหารกำลังก่อความตึงเครียดทางชาติพันธุ์ในรัฐยะไข่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่าการขับเคลื่อนดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพม่าปฏิเสธที่จะยอมรับชาวโรฮิงญาว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศ และปฏิเสธการให้สัญชาติกับพวกเขามานานหลายทศวรรษ

กองทัพพม่าหมดหวังกับการเกณฑ์ทหารใหม่หลังเผชิญความสูญเสียในสนามรบต่อกองทัพอาระกัน (AA) ในรัฐยะไข่ ตั้งแต่เดือน พ.ย. เมื่อกองทัพอาระกันยุติการหยุดยิงนับตั้งแต่รัฐประหาร โดยกองทัพพ่ายให้กองทัพอาระกันในเมืองปอก์ตอ มินบยา มรัคอู จอก์ตอ มเยปอน และตองปโยในรัฐยะไข่ รวมถึงเมืองปะเล็ตวา ในรัฐชิน

ด้านนักเคลื่อนไหวชาวโรฮิงญาประณามการบีบบังคับสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ของเขาให้เข้ารับราชการทหารว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นอาชญากรรมสงคราม

“พวกเขาใช้อำนาจและอาศัยการบังคับและการจับกุม” นักเคลื่อนไหวกล่าว พร้อมเสริมว่าเขาเชื่อว่าเป้าหมายของรัฐบาลทหารคือการกำจัดชุมชนโรฮิงญา และว่าสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

เมื่อต้นเดือน รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่เป็นรัฐบาลพลเรือนคู่ขนานเตือนว่าชาวโรฮิงญาถูกกดดันให้เป็นทหารเพราะไม่มีหนทางที่จะหลบหนีไปได้.