MGR Online - กระทรวงพลังงานและบ่อแร่สั่งบริษัทจีนหยุดขุดค้นและสกัด Rare Earth ในเมืองซำเหนือ แขวงหัวพัน หลังผลตรวจสอบยืนยันพบสารพิษไหลปนเปื้อนแหล่งน้ำของชาวบ้าน เป็นต้นเหตุให้ปลาตาย ด้านบริษัทตั้งแง่ให้รัฐบาลลาวต้องจ่าย 300 ล้านดอลลาร์ ชดเชยเงินที่ได้ลงทุนไปแล้ว
วันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ ได้มีหนังสือแจ้งการด่วนถึงผู้อำนวยการ บริษัทลาว-จีนพัฒนาแร่หายากภาคเหนือ 2 จำกัด ให้ระงับการขุดค้นและสกัดแร่หายาก (Rare Earth) รวมถึงทุกกิจกรรมที่บริษัทกำลังดำเนินงานอยู่ที่บ้านเมืองแว่น บ้านหัวพุ เมืองซำเหนือ แขวงหัวพัน เนื่องจากมีการร้องเรียนจากประชาชนว่าการขุดค้นและสกัด Rare Earth ของบริษัทได้ปล่อยน้ำปนเปื้อนสารพิษลงไปในลำน้ำห้วยตะบุน ห้วยมัน น้ำแว่น ทำให้ปลาตาย และประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน และด้านล่างของโครงการได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีน้ำบริโภค จึงต้องให้บริษัทระงับการดำเนินงานในทุกกิจกรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ แก้ไขสภาพลำน้ำให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 มีประชาชนแจ้งไปยังหน่วยงานปกครองท้องถิ่นว่า พบเห็นปลาจำนวนมากลอยตายเป็นแพอยู่ในลำน้ำห้วยมันที่ไหลมาบรรจบกับลำน้ำสบแว่น นอกจากนี้ ยังพบว่าสีของสายน้ำมีความขุ่นกว่าปกติ จึงอยากให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เพราะชาวบ้านสงสัยว่าเป็นผลกระทบมาจากโครงการขุดค้น Rare Earth ของบริษัทเหมืองแร่จากจีนที่อยู่บนยอดเขาใกล้เคียงบริเวณนั้น
ต่อมา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นักวิชาการภาคสนามจากแผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แขวงหัวพัน ได้เข้าไปสำรวจเก็บข้อมูลในพื้นที่ พบว่าลำน้ำห้วยมันมีสายน้ำสาขาสายหนึ่งชื่อว่าห้วยตะบุน ซึ่งไหลมาจากโครงการขุดค้น Rare Earth ของบริษัทลาว-จีน พัฒนาแร่หายากภาคเหนือ 2 ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมเขตบ้านเมืองแว่น บ้านหัวพุ เมืองซำเหนือ และบนยอดเนินที่เป็นต้นน้ำห้วยตะบุนนั้น โครงการขุดค้น Rare Earth ได้มีการขุดอ่างเก็บน้ำไว้ 3 อ่าง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบอย่างละเอียด
วันที่ 3 มีนาคม 2567 ชาวบ้านเมืองแว่นได้ล่ารายชื่อ ทำหนังสือร้องทุกข์ส่งถึงนายกรัฐมนตรี ประธานสภาแห่งชาติ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแผนการและการลงทุน เจ้าแขวงหัวพัน สภาประชาชนแขวงหัวพัน เจ้าเมืองซำเหนือ และหัวหน้าแผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แขวงหัวพัน ระบุว่าประชาชนจาก 14 บ้าน ของเมืองซำเหนือ ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการนี้ เพราะไม่สามารถนำน้ำจากน้ำห้วยตะบุน ห้วยมัน น้ำแว่นไปบริโภคได้ และยังมีอีก 22 บ้าน ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม จึงขอเรียกร้องทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านทั้งหมดโดยด่วน
วันที่ 4 มีนาคม 2567 นายสอสะหวัน บานคำมี หัวหน้าแผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แขวงหัวพัน ได้ชี้แจงผ่านรายการรอบบ้านผ่านเมือง ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว ว่า จากการตรวจสอบพบว่า อ่างเก็บน้ำของโครงการเกิดรั่วซึมและมีรอยแตก ทำให้มีน้ำจากอ่างไหลลงสู่ห้วยตะบุน และไหลต่อไปห้วยมัน กับน้ำแว่น ทำให้ปลาตาย
ก่อนหน้าที่กระทรวงพลังงานและบ่อแร่จะมีหนังสือแจ้งระงับการขุดค้นและสกัดแร่หายากของบริษัทลาว-จีนพัฒนาแร่หายากภาคเหนือ 2 ออกมาเพียง 1 วัน สื่อออนไลน์แทบทุกแห่งของลาวได้เผยแพร่คลิปการเจรจาระหว่างตัวแทนชาวบ้านกับตัวแทนของบริษัทภายในห้องประชุม โดยตัวแทนของบริษัทได้แจ้งต่อชาวบ้านว่าหากจะให้บริษัทหยุดการขุดค้นและสกัด Rare Earth รัฐบาลลาวจะต้องจ่ายชดเชยให้แก่บริษัทที่ได้ลงทุนไปแล้วเป็นเงิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.