xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มสาวพม่าไม่สนคำสั่งเกณฑ์ทหารของรัฐบาล เตรียมหาช่องร่วมฝ่ายต่อต้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ออนไลน์ - หนุ่มสาวชาวพม่าที่ถูกเรียกตัวเข้าร่วมกองทัพภายใต้กฎหมายเกณฑ์ทหาร กล่าวว่า พวกเขาจะร่วมมือกับฝ่ายต่อต้านหรือไม่ก็หลบหนีออกนอกประเทศ มากกว่าที่จะเป็นทหารให้รัฐบาลที่ยึดอำนาจในการรัฐประหารเมื่อ 3 ปีก่อน

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารประกาศเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่ากฎหมายรับราชการทหารของประชาชนที่ร่างขึ้นในปี 2553 โดยรัฐบาลทหารชุดก่อนแต่ยังไม่มีผลบังคับใช้นั้น จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันที

การบังคับใช้กฎหมายนี้เกิดขึ้นในขณะที่กองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ได้ชัยชนะอย่างมีนัยสำคัญต่อการกองกำลังรัฐบาลทหารในสงครามกลางเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในเดือน ต.ค.2566 หลังจากกลุ่มติดอาวุธรวมตัวกันและเปิดฉากโจมตีครั้งใหม่ต่อทหารที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างมีนัยสำคัญ

คำสั่งของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความกังวลในหมู่ชายชาวพม่าที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี และผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 18-27 ปี ที่อาจเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หากพวกเขาปฏิเสธที่จะรับราชการทหารเป็นเวลา 2 ปี

ผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์ วิศวะ และช่างเทคนิค อายุ 18-45 ปี สำหรับผู้ชาย และ 18-35 ปี สำหรับผู้หญิง ก็ต้องรับราชการทหารเช่นกัน และอาจต้องรับใช้ชาตินานสูงสุด 5 ปี หากประเทศอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งรัฐบาลเพิ่งประกาศขยายเวลาไปอีก 6 เดือนเมื่อวันที่ 1 ก.พ.

“ถ้าพวกเขาถูกบังคับให้เป็นทหาร พวกเขาจะต่อสู้เพื่อยุติเผด็จการทหารเท่านั้น มีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลทหารจะผลักชาวเมืองให้เข้าร่วมกองกำลังต่อต้าน” ชาวเมืองย่างกุ้งรายหนึ่งกล่าว

มิน มิน อายุ 24 ปี กล่าวว่า เขาจะปฏิเสธที่จะเป็นทหาร

“ผมจะไม่อยู่ในเมืองอีก และจะหาทางออกที่เหมาะสม” ชายวัยรุ่นรายหนึ่งที่อาศัยในย่างกุ้ง กล่าว

ซันดาร์ อายุ 22 ปี จากมัณฑะเลย์ กล่าวว่าเธอรู้สึกโกรธเมื่อเธอได้ยินว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้ เพราะจะบังคับให้ประชาชนต้องต่อสู้กันเอง และเธอกำลังคิดที่จะเข้าร่วมกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) หรือจับอาวุธต่อต้านกองกำลังทหารของรัฐบาลทหาร

“เราต้องสนับสนุนการปฏิวัติครั้งนี้และยุติเผด็จการ” ซันดาร์ กล่าว

ในเมืองขิ่นอู ภูมิภาคสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่การสู้รบปะทุขึ้นเกือบทุกวัน ชาวบ้านกล่าวว่า รัฐบาลทหารหันไปใช้การบังคับเกณฑ์พลเรือน เนื่องจากกองกำลังภาคพื้นดินพ่ายแพ้ในการต่อสู้และต้องการเสริมกำลังในแนวหน้า

“ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขากำลังใช้กฎหมายเป็นกระสุนนัดสุดท้าย ผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจะต้องสู้กับกองทัพหากพวกเขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้” ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าว

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเคยใช้นักโทษและอดีตนายทหารเข้าร่วมในการต่อสู้ แต่เวลานี้พวกเขากำลังเกณฑ์พลเรือนหลังเผชิญกับการพ่ายแพ้และสูญเสียทหารมากขึ้น หม่อง หม่อง ส่วย รองเลขาธิการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลเงา กล่าว

“ประชาชนต่อต้านรัฐบาลทหารทุกครั้งที่พวกเขามีโอกาส ถ้าพวกเขาถูกบังคับให้ไปเป็นทหารภายใต้กฎหมายดังกล่าว นี่จะเป็นดาบสำหรับพวกเขา และรัฐบาลทหารจะถูกโค่นล้มทันที” หม่อง หม่อง ส่วย กล่าว

ซอ มิน ตุน โฆษกของรัฐบาลทหาร กล่าวผ่านสื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐว่า กฎหมายเกณฑ์ทหหารถูกนำมาใช้เพราะความต้องการกองกำลังป้องกันประเทศ เนื่องจากข้อจำกัดของกองทัพในการจัดการกับอาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงและอุปกรณ์ทางทหาร

ความเห็นของเขามีขึ้นหลังจากที่เขาเรียกร้องให้พลเมืองทุกคนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมเป็นทหารรับใช้ชาติเพื่อปกป้องประเทศ โดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญปี 2551 ที่ร่างขึ้นโดยรัฐบาลทหารชุดก่อน ซึ่งเขากล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวบังคับใช้ตามข้อกำหนดสำหรับหน้าที่พื้นฐานของพลเมือง

นักวิเคราะห์กฎหมายและการเมืองชาวพม่าวิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้ประชาชนเข้าสู่ความขัดแย้ง และเชื่อว่ากฎหมายจะยิ่งกระตุ้นความขัดแย้งด้วยอาวุธในพม่า

“ท่ามกลางความตึงเครียดทางทหารในหมู่กลุ่มติดอาวุธและความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นของสาธารณชน รวมถึงความหวาดระแวงต่อรัฐบาลทหาร คำสั่งของกฎหมายรับราชการทหารนี้เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง และจะนำไปสู่ความขัดแย้งด้วยอาวุธที่มีความตึงเครียดสูง” นักวิเคราะห์ กล่าว

เขายังคาดการณ์ว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้จะทำให้ผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี หลบหนีไปต่างประเทศเพื่อเลี่ยงรับราชการทหาร.
กำลังโหลดความคิดเห็น