เอเอฟพี - เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องเหนือหลวงพระบาง พระสงฆ์ออกเดินตามถนนเพื่อรับบิณฑบาต ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันเซ็งแซ่ของนักท่องเที่ยว พร้อมกล้องถ่ายรูปในมือที่กำลังทำลายความสงบสุขของเมืองโบราณของลาวแห่งนี้
แหล่งมรดกโลกของยูเนสโกแห่งนี้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเกือบ 800,000 คนในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว โดยสื่อของรัฐรายงานว่า แขวงหลวงพระบางหวังที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้เกือบ 3 ล้านคนภายในสิ้นปี 2567
แม้นักท่องเที่ยวจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจที่สั่นคลอนของลาว แต่กลับทำให้คนในพื้นที่ประสบปัญหา เนื่องจากกลุ่มทัวร์ต่างชาติเข้ายึดครองและเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางวัฒนธรรมของเมืองที่สงบเงียบแห่งนี้ โดยตัวอย่างที่ชัดที่สุดเห็นได้ในทุกเช้า ขณะที่พระภิกษุออกบิณฑบาต
กิจกรรมที่เป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนระหว่างชาวพุทธในท้องถิ่นและพระสงฆ์ เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมายาวนาน แต่ในตอนนี้ พระต้องเดินผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน นั่งบนเก้าอี้พลาสติกเพื่อใส่บาตร ขณะที่ไกด์นำมือถือมาถ่ายภาพให้พวกเขา
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ที่หลวงพระบางเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก และร่วมตักบาตรในตอนเช้า แต่คนในพื้นที่กล่าวว่า เวลานี้การใส่บาตรเป็นเหมือนกับกิจกรรมเพื่อการถ่ายรูป
“พวกเขาถ่ายรูปกันมากกว่าซื้อข้าวของ” แม่ค้าวัย 30 ปี กล่าว
คนท้องถิ่นเหล่านี้พยายามหาจุดสมดุลของสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาต้องการรายได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่พอใจนักท่องเที่ยว
“ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวมากพอ เราก็ขาดทุน แต่ยิ่งนักท่องเที่ยวมากันมากขึ้น วิถีชีวิตของเราก็ยิ่งเปลี่ยนไป ตอนนี้วุ่นวายมาก” แม่ค้ากล่าว แต่ยอมรับถึงภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หลวงพระบาง เมืองหลวงเก่าของประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงไป เมื่อมีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา ควบคู่กับการท่องเที่ยวที่พุ่งสูง ที่ได้แรงหนุนจากเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ของลาวที่ได้ทุนสนับสนุนจากจีน
การมาถึงของรถไฟจากชายแดนจีน ทำให้เกิดกิจกรรมมากมายที่สถานีรถไฟขนาดใหญ่แห่งใหม่ของเมือง ขณะที่ไกด์ทัวร์เก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ
สถานีเปิดให้บริการเมื่อปีก่อน ไม่มีรถโดยสารสาธารณะเชื่อมสถานีรถไฟกับตัวเมืองนอกจากรถมินิแวน ขณะที่สถานีแสดงข้อความเป็นภาษาจีนทั้งหมด ทำให้เห็นตลาดเป้าหมายอย่างชัดเจน
นักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากกรุ๊ปทัวร์ที่เพิ่งมาถึงจากฉงชิ่ง กล่าวกับเอเอฟพีว่าเธอต้องการมาเที่ยวที่นี่
“ประเทศนี้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และอาจจะพัฒนาดียิ่งขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของ สี จิ้นผิง ช่วยเศรษฐกิจของพวกเขา” นักท่องเที่ยวอายุ 70 ปี กล่าวถึงโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศของประธานาธิบดีจีน
จีนให้เงินสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงมูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์ ที่เชื่อมเมืองคุนหมิงของจีน กับนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว ที่เป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ทำให้ลาวติดหนี้จีน
ขณะที่ผู้นำของพวกเขาให้คำมั่นว่ารถไฟจะสร้างประโยชน์ให้ประเทศ แต่คนท้องถิ่นกล่าวกับเอเอฟพีว่า พวกเขาแทบไม่เห็นรายได้จากโครงการรถไฟ
รายได้ตกอยู่ภายในกรุ๊ปทัวร์จีน ที่นักท่องเที่ยวพักโรงแรมที่จีนเป็นเจ้าของ กินข้าวในร้านอาหารที่ดำเนินการโดยชาวจีน และเดินทางด้วยรถส่วนตัว
คนขับรถแท็กซี่อายุ 37 ปีกล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวนั้นเปลี่ยนไปจากตอนที่เขายังเด็ก นักท่องเที่ยวจากยุโรปถูกนักท่องเที่ยวเอเชียแซงหน้า
กรุ๊ปทัวร์ยังผลักดันการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกในแม่น้ำโขง จากที่เคยเงียบสงบ กลายเป็นปาร์ตี้เปิดเพลงร้องคาราโอเกะ
ชายคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของเรือนำเที่ยว 3 ลำ กล่าวว่า ตามปกติแล้วพวกเขาอนุญาตให้เปิดเพลงเพียงแค่ชั่วโมงเดียว แต่ลูกค้ามักร้องขอมากกว่านั้น
“มันเปลี่ยนวิถี มันทำลายความสงบสุข” เจ้าของเรือกล่าว
ย้อนกลับไปที่การใส่บาตร ถนนยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คน พร้อมเสียงพูดคุยในภาษาต่างๆ ทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และตะวันตกอีกหลายภาษา ขณะที่นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมกับพิธีดังกล่าว
นักท่องเที่ยวชาวจีนกล่าวว่า เธอมาถึงสถานที่ใส่บาตรเร็ว และรู้สึกประหลาดใจถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
“ตอนที่เรามาถึงยังไม่มีใครอยู่บนถนน แล้วจากนั้นถนนก็ทะลักไปด้วยผู้คน” เธอกล่าว
ขณะที่เธอพูด หญิงสาวชาวลาวอายุน้อยกว่ากำลังไล่ต้อนนักท่องเที่ยว และทำเสียงไล่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยกมือถือถ่ายภาพใบหน้าของสามเณร
“ฉันต้องบอกนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดว่าอย่าเข้าใกล้จนเกินไป” เธอกล่าวกับเอเอฟพี
“ฉันชอบที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะๆ แต่ฉันไม่ชอบที่หลายคนถ่ายรูป และตะโกนสั่งกันมากเกินไป” เธอกล่าว.