เอเอฟพี - ผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาได้ยื่นอุทธรณ์โทษจำคุก 27 ปี จากคดีทรยศชาติ ฐานพยายามโค่นล้มรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ที่ศาลวันนี้ (30) ตามการระบุของทนายความ
ในเดือน มี.ค.2566 ศาลตัดสินว่าแกม สุขา ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับหน่วยงานต่างชาติเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของฮุนเซน เขาถูกตัดสินจำคุก 27 ปี และถูกกักบริเวณในบ้านทันที
และศาลยังเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของแกม สุขา และห้ามไม่ให้เขาพบหารือกับชาวต่างชาติหรือใครก็ตามที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว
แกม สุขา อายุ 70 ปี ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเขาหลายครั้งนับตั้งแต่ถูกจับกุมตัวในปี 2560
ในเช้าวันอังคาร (30) เขาถูกนำตัวขึ้นขบวนรถตำรวจจากบ้านของเขาไปยังศาลอุทธรณ์ โดยไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าชม
ผู้พิพากษามีกำหนดไต่สวน 9 ครั้ง เพื่อรับฟังข้อโต้แย้งในการอุทธรณ์ของแกม สุขา ทนายความของแกม สุขา กล่าวกับนักข่าวหลังการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้น
“เราคัดค้านคำตัดสินของศาลแรกที่ตัดสินผิด” ทนายความกล่าว และเสริมว่า แกม สุขา ยังขอให้ผู้พิพากษาพิจารณาผ่อนปรนข้อจำกัดการคุมขังเขาเพื่อที่ญาติของเขาจะสามารถดูแลเขาได้
ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลได้ออกคำแถลงเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาล้มล้างความผิดฐานทรยศชาติที่ไม่มีมูลความจริงและโทษของแกม สุขา และยุติการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามที่กำลังดำเนินอยู่
การไต่สวนครั้งถัดไปมีกำหนดในวันที่ 8 ก.พ. ตามการระบุของทนายความ
ที่ด้านนอกศาลมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางสิ่งกีดขวางบนถนนเพื่อกันผู้สนับสนุนแกม สุขา ให้ออกจากพื้นที่
กลุ่มสิทธิระบุว่า ข้อกล่าวหาต่อแกม สุขา ถูกออกแบบมาเพื่อกันเขาออกจากการเมืองก่อนการเลือกตั้งเดือน ก.ค.2566 ที่พรรครัฐบาลของฮุนเซนได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายโดยไม่มีฝ่ายค้านที่มีความหมายร่วมลงแข่งขัน
ฮุนเซนที่ปกครองกัมพูชามานานกว่า 38 ปี ก้าวลงจากอำนาจในเดือน ส.ค. และส่งต่อให้กับฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของเขา
2 เดือนหลังจากจับกุมแกม สุขา ในปี 2560 ศาลฎีกาของกัมพูชาสั่งยุบพรรค CNRP ที่ครั้งหนึ่งถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ที่ปกครองประเทศอยู่เพียงรายเดียว
เหตุการณ์ดังกล่าวปูทางให้พรรค CPP ชนะที่นั่งในสภาทั้งหมด 125 ที่นั่งในปี 2561 และทำให้ประเทศกลายเป็นรัฐพรรคเดียวโดยพฤตินัย
ฮุนเซนกำจัดสิ่งที่ต่อต้านอำนาจของเขาทั้งหมด โดยพรรคคู่แข่งถูกแบน ผู้ท้าทายถูกบังคับให้ต้องหลบหนี และเสรีภาพในการแสดงออกถูกจำกัด บุคคลฝ่ายค้านจำนวนมากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทรยศชาติในช่วงก่อนการเลือกตั้งปีก่อน.