รอยเตอร์ - สหรัฐฯ จะยังคงร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเวียดนามต่อไป เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวหลังจากฮานอยประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับจีน รวมถึงด้านกลาโหมและความมั่นคง ในขณะที่มหาอำนาจทั้งสองแข่งขันชิงอิทธิพลในภูมิภาค
ผู้นำเวียดนามยกระดับความสัมพันธ์กับปักกิ่งระหว่างการเยือนฮานอยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ก่อน ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น 3 เดือนหลังจากที่พวกเขากระชับความสัมพันธ์กับวอชิงตัน ขณะที่โจ ไบเดน เดินทางไปยังเวียดนาม ในสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นความสำเร็จของการทูตไผ่ลู่ลมของเวียดนาม
“ความสัมพันธ์ของเรากับเวียดนามไม่เกี่ยวกับประเทศที่ 3 ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของเรากับหุ้นส่วนชาวเวียดนามในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงสุขภาพ การศึกษา เทคโนโลยี และการค้า จะยังคงดำเนินต่อไปในอนาคต” โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอย กล่าวตอบคำถามของรอยเตอร์
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์
ในคำแถลงร่วมที่ออกหลังจากการเยือนฮานอยของผู้นำจีนระบุว่า เวียดนามและจีนมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงระหว่างอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศและโลจิสติกส์
สหรัฐฯ กำลังทำงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันกับเวียดนามด้วย
คาร์ล เทเยอร์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านความมั่นคงของเวียดนามจากวิทยาลัยการทหารแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่าเป้าหมายที่มุ่งหวังไว้เหล่านั้นกับจีน ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือด้านการป้องกันกับวอชิงตัน
เวียดนามและจีนยังตกลงที่จะเสริมการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเพื่อป้องกันกองกำลังที่เป็นปฏิปักษ์จากขบวนการรากหญ้าที่ได้รับการสนับสนุน เช่นขบวนการเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การปฏิวัติในช่วงไม่กี่ปีมานี้ในอดีตประเทศคอมมิวนิสต์ ที่นักวิจารณ์กล่าวว่าได้รับการส่งเสริมจากวอชิงตัน
“การเน้นย้ำไปยังกองกำลังที่เป็นศัตรูไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ ผู้นำจีนมักกระซิบเรื่องนี้เข้าหูผู้นำเวียดนามเสมอ แต่อย่ากล่าวเกินจริงถึงความร่วมมือทวิภาคีระหว่างพวกเขาในเรื่องนี้ เพราะพวกเขาจะไม่แบ่งปันข้อมูลทางทหารต่อกัน” ศาสตราจารย์ด้านการเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากวิทยาลัยการสงครามแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน ดีซี กล่าว
“ยังมีความแตกต่างระหว่างการแสดงออกทางการทูตของเวียดนามและข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยที่แท้จริง” อดีตผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในเวียดนาม ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำโครงการ Project Myoushu ในทะเลจีนใต้ ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าว
เขาเสริมว่า ฮานอยจะยังคงมองหาพื้นที่ปลอดภัยระหว่างการยอมตามความคาดหวังทางการเมืองของปักกิ่งกับภัยคุกคามจากจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นทะเลจีนใต้ ที่จีนและเวียดนามต่างขัดแย้งกันในการอ้างสิทธิ์.