xs
xsm
sm
md
lg

สองกองทัพไทใหญ่ถือฤกษ์วันปีใหม่ไต เซ็นสัญญาสงบศึกกันอย่างเป็นทางการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ตัวแทนกองทัพรัฐฉานเหนือ-ใต้ ร่วมลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างกันอย่างเป็นทางการ ในวันปีใหม่ไต 13 ธันวาคม 2566 (ภาพจากสำนักข่าวในรัฐฉาน)
MGR Online - สองกองทัพไทใหญ่ ถือฤกษ์มงคลวันปีใหม่ไต ส่งตัวแทนลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างกันอย่างเป็นทางการ วาง 9 แนวทางหลัก ให้กำลังพลของแต่ละฝ่ายร่วมปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก

วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ไตและเป็นวันมงคลของชาวไทใหญ่ ตัวแทนกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ไทใหญ่ 2 กองทัพ ได้แก่ พรรคก้าวหน้ารัฐฉาน(SSPP/SSA) หรือกองทัพรัฐฉานเหนือ กับสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน(RCSS/SSA) หรือกองทัพรัฐฉานใต้ ได้นัดพบกันในสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อลงนามในสัญญาสงบศึกของทั้ง 2 กองทัพ อย่างเป็นทางการ

ตัวแทนพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน ได้แก่ พ.อ.จายสู้ เลขานุการ(2) พ.ท.หน่อเล็ก และ พ.ท.แสงหาญ ส่วนตัวแทนสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ประกอบด้วย พ.อ.อ่องเมียะ พ.อ.อ๋อนตึน และ พ.ต.แสงหาญ


สัญญาสงบศึกที่ตัวแทนทั้ง 2 กองทัพได้ร่วมลงนามกันในวันนี้ เป็นฉบับเต็ม มีเนื้อหาโดยสรุปว่า เพื่อความสมัครสมานสามัคคีที่พ่อแม่ประชาชนในรัฐฉานจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบร่มเย็น กองทัพชาติพันธุ์ไทใหญ่ 2 กองทัพได้ตกลงยุติความขัดแย้งระหว่างกัน ตามแนวปฏิบัติดังนี้

1.ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บัญชาการสูงสุดของทั้ง 2 กองทัพ เมื่อวันที่ 9-10 สิงหาคม 2566 ที่ให้กำลังพลทั้ง 2 ฝ่ายยุติการสู้รบกัน ให้ทหารแต่ละฝ่ายอยู่ในที่ตั้งของตน ไม่สร้างเหตุให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน และต้องช่วยดูแลประคับประคองซึ่งกันและกัน
2.ปล่อยเชลยศึก ทั้งที่เป็นทหารและชาวบ้าน ซึ่งแต่ละฝ่ายได้จับกุมไว้ ให้เป็นอิสระ
3.ให้สิทธิ์แก่ประชาชนในรัฐฉานสามารถเดินทางข้ามไปมาหาสู่กันได้ ระหว่างพื้นที่ซึ่งทั้ง 2 กองทัพต่างดูแลอยู่
4.กำลังพลของแต่ละฝ่ายที่ประจำอยู่ ณ ที่แห่งใด ให้ทำมาหากินสร้างรายได้จากพื้นที่นั้น ไม่ให้ข้ามไปแย่งชิงผลประโยชน์จากพื้นที่ของอีกฝ่าย หากกำลังพลฝ่ายใดจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ของอีกฝ่าย ต้องแจ้งให้เจ้าของพื้นที่ได้รับรู้ล่วงหน้าก่อน จึงสามารถเข้าไปได้
5.กำลังพลที่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาต้องแจ้งกับทหารของฝ่ายที่ประจำการอยู่ในพื้นที่นั้นได้รับรู้ และห้ามพกพาอาวุธติดตัว
6.เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายได้ยุติการสู้รบกันแล้ว ให้แต่ละฝ่ายพยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อกัน พยายามจัดกิจกรรมให้กำลังพลแต่ละฝ่ายได้มีโอกาสพบปะพูดคุยสร้างความสนิทสนมซึ่งกันและกัน อย่างน้อย 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง
7.กำลังพลของทุกฝ่ายต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามายุแหย่ แทรกแซงให้แต่ละฝ่ายเกิดความขัดแย้งกันขึ้นมาอีก
8.ปัญหาความขัดแย้งทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้นระหว่างทั้ง 2 กองทัพ ต้องใช้การเจรจาเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข
9.ทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน

เนื้อหาในสัญญาสงบศึกที่ตัวแทนของทั้ง 2 กองทัพได้ลงนามร่วมกันในวันที่ 13 ธันวาคม เป็นรายละเอียดที่ได้รับการขยายความจากข้อตกลงเบื้องต้นที่ตัวแทนของ 2 ฝ่าย ได้ร่วมกันประกาศให้ประชาชนได้รับรู้ไว้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเนื้อความที่ถูกประกาศในครั้งนั้น มีเพียงข้อสรุปคร่าว ๆ จำนวน 3 ข้อ (โปรดดูข้อตกลงเบื้องต้นฉบับภาษาไทยประกอบ)



สัญญาสงบศึกอย่างเป็นทางการ ระหว่างกองทัพรัฐฉานเหนือและใต้ วางแนวทางปฏิบัติโดยละเอียดไว้ 9 ข้อ



ข้อตกลงเบื้องต้นที่ 2 กองทัพร่วมกันประกาศไว้เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ฉบับภาษาไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น