รอยเตอร์ - จีนและเวียดนามกำลังทำงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการยกระดับเส้นทางรถไฟที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา เพื่อเพิ่มเส้นทางที่ตัดผ่านพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งแร่แรร์เอิร์ธของเวียดนาม และไปถึงท่าเรือชั้นนำในภาคเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่ระดับสูง และนักการทูตระบุ
การเจรจาหารือนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการเยือนกรุงฮานอยที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เจ้าหน้าที่และนักการทูตระบุ ความเคลื่อนไหวที่จะเป็นการยืนยันถึงบทบาทเชิงกลยุทธที่เพิ่มขึ้นของเวียดนามในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่มหาอำนาจรวมถึงสหรัฐฯ กำลังแข่งขันชิงอิทธิพลเหนือประเทศ
ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ลึกซึ้งขึ้นและการเชื่อมต่อทางรถไฟ คาดว่าจะถูกยกขึ้นหารือในวันศุกร์ ขณะที่หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีน พบกับรองนายกรัฐมนตรีเจิ่น ลิว กวาง ของเวียดนาม ในกรุงฮานอย นักการทูตกล่าว
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม ได้เรียกร้องให้มีการปรับปรุงทางรถไฟเชื่อมคุนหมิง ทางภาคใต้ของจีน กับเมืองไฮฟอง ที่เป็นเมืองท่าของเวียดนาม ในคำแถลงที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของจีนเยือนเวียดนาม
เจ้าหน้าที่จีนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานกับเพื่อนบ้านทางใต้ของพวกเขา
เวียดนามมีทางรถไฟเชื่อมต่อไปจีนอยู่แล้ว แต่เป็นระบบเก่าที่จำกัดขีดความสามารถในฝั่งเวียดนาม แต่ทางรถไฟทั้งสองระบบยังไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ในขณะนี้ ซึ่งหมายความว่ารถไฟจะต้องจอดที่ชายแดน ที่ผู้โดยสารและสินค้าต้องถูกขนย้ายไปใช้บริการภายในประเทศ
การยกระดับเส้นทางรถไฟนี้จะตัดผ่านภูมิภาคที่เวียดนามมีแหล่งแร่หายากขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งจนถึงขณะนี้จีนเป็นผู้สกัดแร่หายากรายใหญ่ที่สุดของโลก
เวียดนามกำลังพยายามสร้างอุตสาหกรรมของตนเอง ในสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นความท้าทายที่อาจถูกจีนครอบงำ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแร่หายากของจีนและเวียดนามได้หารือกันเมื่อสัปดาห์ก่อนถึงความร่วมมือเพิ่มเติมในการแปรรูปแร่ ตามการรรายงานของสื่อทางการของเวียดนาม
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าจีนจะสนับสนุนการปรับปรุงรางรถไฟในเวียดนามมากน้อยเพียงใด และฮานอยจะยอมรับเงินทุนจำนวนมากจากปักกิ่งในเรื่องนี้หรือไม่
เส้นทางรถไฟดังกล่าวถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่เป็นโครงการเรือธงของจีน ซึ่งสนับสนุนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก แต่ไม่ชัดเจนอีกเช่นกันว่าจะถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในโครงการ BRI หรือไม่ นักการทูตรายหนึ่งกล่าว
การเชื่อมโยงทางรถไฟยังสามารถกระตุ้นการส่งออกของเวียดนามไปยังจีน ที่ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม และบูรณาการอุตสาหกรรมการผลิตของสองประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าเป็นการอยู่ร่วมกันแบบอิงอาศัย โดยโรงงานในเวียดนามส่วนใหญ่ประกอบส่วนประกอบที่ผลิตในจีน
จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และจนถึงปีนี้เป็นนักลงทุนรายหลักเช่นกัน เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าการลงทุนจากฮ่องกง เนื่องจากบริษัทจีนหลายแห่งย้ายการดำเนินการบางส่วนลงใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน
แม้จะมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู แต่สองประเทศมีข้อพิพาททางทะเลในทะเลจีนใต้มานานหลายปี และเคยทำสงครามช่วงสั้นๆ ในปลายทศวรรษ 70.