‘มินอ่องหล่าย’ ชี้กลุ่มติดอาวุธได้ทุนสนับสนุนก่อเหตุโจมตีส่วนหนึ่งมาจากการค้ายาเสพติด

เอพี - ผู้นำรัฐบาลทหารพม่าตั้งข้อหาว่าการโจมตีครั้งใหญ่ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโดยพันธมิตรของกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ ได้ทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจากผลกำไรที่ได้จากการค้ายาเสพติดของกลุ่มติดอาวุธหนึ่งในนั้น สื่อพม่ารายงาน

ข้อกล่าวหาของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย มีขึ้นหลังรัฐบาลของเขาถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวในหลายเมืองในพื้นที่ชายแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. กองทัพอาระกัน กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่า และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง ที่ตั้งชื่อกลุ่มของพวกเขาว่า พันธมิตรสามภราดรภาพ ได้เปิดฉากโจมตีร่วมกันในรัฐชานตอนเหนือ

กองทัพยอมรับว่าสูญเสียการควบคุมเมือง 3 แห่งในรัฐชานตอนเหนือ รวมถึงจุดผ่านแดนหลักสำหรับการค้ากับจีน แต่ไม่ได้อธิบายว่าเหตุใดกองทัพจึงล้มเหลวในการป้องกัน

“ปัญหาในรัฐชานขณะนี้มีต้นตอมาจากปัญหายาเสพติด” หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่กล่าวขึ้นในที่ประชุมสภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติ

“รายได้จากยาเสพติดถูกนำไปใช้กับการยึดอำนาจผ่านการต่อสู้ด้วยอาวุธ แผนดังกล่าวได้ทุนสนับสนุนจากการผลิตและการค้ายาเสพติด” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระบุ

กลุ่มที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวหาว่าค้ายาเสพติด ซึ่งก็คือกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่าได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

การผลิตและค้ายาเสพติดมีอยู่แพร่หลายในพื้นที่ชายแดนของพม่ามาเป็นเวลายาวนาน โดยในอดีตเกี่ยวข้องกับฝิ่นและเฮโรอีน และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับยาบ้า การค้ายาเสพติดกลายเป็นแหล่งทุนสำหรับกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลายกลุ่ม แต่สมาชิกของกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับภูมิภาคก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน

หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์รายงานว่าการประชุมสภาความมั่นคง รักษาการประธานาธิบดีมี้น ส่วย ได้กล่าวเตือนว่าประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตและอาจแตกสลายได้หากกองทัพไม่ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพต่อกลุ่มที่ก่อเหตุโจมตี

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้บอกกับคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อนว่ากองทัพจะตอบโต้ผู้ที่โจมตีค่ายทหาร

รายงานระบุว่า เขากล่าวว่าความขัดแย้งในรัฐชานเกิดขึ้นเพราะกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ MNDAA ใช้ผลกำไรจากการผลิตยาเสพติดผิดกฎหมายเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อที่จะสามารถกลายเป็นกำลังสำคัญอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นในเขตปกครองพิเศษโกก้าง ที่มีเมืองเอกคือเมืองลอกกาย ติดชายแดนจีน

MNDAA เป็นกองกำลังของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์โกก้างของพม่า

มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่านับตั้งแต่ปี 2549 มีคดียาเสพติดใหญ่ 18 คดีในโกก้าง โดยมีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 140 คน และยึดยาเสพติดมูลค่ารวม 71,600 ล้านจ๊าต (34 ล้านดอลลาร์)

โฆษกของ MNDAA ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องยาเสพติด โดยกล่าวว่ากลุ่มดำเนินมาตรการต่อต้านยาเสพติดและทำเกษตรปลูกพืชทางเลือกในเขตโกก้างมาตั้งแต่ปี 2550

เขากล่าวว่าการโจมตีของพันธมิตรชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์มีเป้าหมายที่จะขจัดเผด็จการทหารที่กดขี่ สร้างประเทศบนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยแบบสหพันธ์ และต่อสู้กับการฉ้อโกงจากการพนันออนไลน์ที่แพร่หลาย ซึ่งแพร่ระบาดในพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวชายแดนจีน-พม่า

พม่ากำลังอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายจากสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติบางคนระบุว่าเป็นสงครามกลางเมืองหลังการต่อต้านด้วยอาวุธเกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพในปี 2564 ที่โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี

การโจมตีของพันธมิตรชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือการต่อสู้ด้วยอาวุธทั่วประเทศนำโดยกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธที่จัดตั้งขึ้นอย่างหลวมๆ ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของพม่า ซึ่งกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์บางกลุ่มเป็นพันมิตรกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความซับซ้อน เนื่องจากรัฐบาลทหารและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ในพันธมิตรสามภราดรภาพยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน และทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่ากำลังพยายามกำจัดปฏิบัติการหลอกลวงออนไลน์ ที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกาสิโนและโรงแรมในพื้นที่ชายแดนของพม่า.