เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าทรายอาจหมดไปจากดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนามภายในปี 2578 เนื่องจากการทำเหมืองทรายและเขื่อนทำลายภูมิภาคที่เป็นอู่ข้าว ส่งผลให้ผู้คน พืชผล และเศรษฐกิจตกอยู่ในความเสี่ยง
พื้นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพบริเวณแม่น้ำโขงไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ เป็นแหล่งอาหารและความเป็นอยู่ของผู้คนหลายสิบล้านชีวิต
เขื่อนไฟฟ้าที่อยู่ต้นแม่น้ำโขงกำลังลดการไหลของทรายบริเวณท้ายน้ำ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการลดลงอย่างรวดเร็วของทรายใต้ก้นแม่น้ำ ซึ่งมีความสำคัญต่อความยืดหยุ่นของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
การขุดทรายเพื่อป้อนให้ภาคการก่อสร้างที่กำลังเฟื่องฟูของเวียดนามนั้นทำให้ทรัพยากรหมดไปอย่างรวดเร็ว ตามการรายงานของ WWF เกี่ยวกับปัญหานี้
ด้วยอัตราการสกัดทรายในปัจจุบันอยู่ที่ 35-55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทำให้ปริมาณทรายที่ใช้ประโยชน์ได้จากก้นแม่น้ำจะอยู่ได้เพียงทศวรรษเดียวเท่านั้น รายงานปริมาณทรายสำหรับดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนามระบุ
ผู้เขียนรายงานร่วมกล่าวกับเอเอฟพีว่า หากทรายหมดไป พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการรุกล้ำของน้ำเค็มจะเพิ่มขึ้น 10% ปรากฏการณ์ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อข้าวในแม่น้ำโขง
นอกจากนี้ ทรายที่หมดไปจะนำไปสู่การกัดเซาะของตลิ่งแม่น้ำที่มากขึ้นและกระแสน้ำที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งนำไปสู่น้ำท่วมและการกัดเซาะที่มากขึ้น
WWF เตือนว่าในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น การขาดแคลนทรายแสดงถึงภัยคุกคามต่อพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ
ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่เป็นหนึ่งในดินดอนสามเหลี่ยมที่ลุ่มต่ำที่สุดและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก มีทรายที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากถึง 550 ล้านลูกบาศก์เมตร
แต่จากการศึกษาระบุว่า มีทรายเพียง 4 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้นที่ไหลลงมาสู่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลดลงโดยเฉลี่ยถึง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร และปริมาณทรายที่ถูกขุดลอกในแต่ละปีมีแนวโน้มที่จะสูงกว่าการศึกษาที่รายงานไว้ เนื่องจากการวิจัยไม่ได้คำนวณปริมาณทรายที่ขุดในเวลากลางคืน ซึ่งทราบกันว่าเป็นช่วงเวลาที่มีเรือขุดทรายผิดกฎหมายดำเนินการอยู่เป็นจำนวนมาก
ในเดือน ส.ค. ตำรวจจับกุมเจ้าหน้าที่อาวุโสใน จ.อานซยาง ที่อยู่ในเขตดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ในข้อหารับสินบน 50,000 ดอลลาร์จากบริษัทเหมือง
บริษัท Trung Hau 68 ขุดทรายมากกว่า 4.7 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้มีใบอนุญาตให้ขุดทรายในปริมาณเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น ตำรวจระบุ
บ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ ของผู้คนทั่วดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงหายไปในทะเลเนื่องจากการกัดเซาะของชายฝั่ง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ทรายหายไป
กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทระบุว่ามีรายงานจุดกัดเซาะเกือบ 800 จุด ครอบคลุมพื้นที่ทะเลและตลิ่งแม่น้ำรวม 1,134 กิโลเมตร ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง นับตั้งแต่ปี 2559.