‘ฮุนเซน’ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งต่ออำนาจให้ ‘ฮุน มาเนต’

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา หนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลกกล่าววันนี้ (26) ว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่ง และมอบอำนาจให้ลูกชายคนโตของเขา หลังปกครองประเทศมานานเกือบ 4 ทศวรรษ

อดีตทหารเขมรแดงผู้นี้ปกครองกัมพูชามาตั้งแต่ปี 2528 กำจัดทุกการต่อต้านต่ออำนาจของเขา พรรคฝ่ายค้านถูกแบน ผู้ท้าทายถูกบังคับให้ต้องหลบหนี และเสรีภาพในการแสดงออกถูกจำกัด

พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของเขาชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ (26) โดยไม่มีฝ่ายค้านที่มีความหมาย พรรคได้คะแนนเสียง 82% ปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจให้ลูกชายคนโตของเขา ที่นักวิจารณ์บางคนเปรียบเทียบกับเกาหลีเหนือ

“ผมอยากที่ขอความเข้าใจจากประชาชนที่ผมประกาศว่าผมจะไม่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป” ผู้นำเขมรวัย 70 ปี กล่าวออกอากาศในรายการพิเศษของสถานีโทรทัศน์ของรัฐ

“ฮุน มาเนต จะเป็นนายกรัฐมนตรีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” ฮุนเซน กล่าว และเสริมว่ากษัตริย์จะทรงแต่งตั้ง ฮุน มาเนต เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ส.ค. และสภาจะลงมติรับรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 22 ส.ค.

“ผมขอให้ทุกคนสนับสนุนฮุน มาเนต ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่” ฮุนเซน กล่าว
หน่วยงานการเลือกตั้งได้ตัดสิทธิผู้ท้าทายจริงจังเพียงรายเดียว คือ พรรคแสงเทียน ก่อนการเลือกตั้ง และคาดว่าพรรค CPP จะได้นั่งเกือบทั้งหมดของสภาล่าง เว้นเพียง 5 ที่นั่ง

รัฐบาลได้ยกย่องจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่มากถึง 84.6% ว่าเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ถึงวุฒิภาวะทางประชาธิปไตย แต่มหาอำนาจตะวันตกรวมทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าไม่เสรีและไม่ยุติธรรม

ฮุนเซนกรุยทางการส่งมอบอำนาจให้ลูกชายของเขามาปีครึ่ง และบุตรชายวัย 45 ปีผู้นี้มีบทบาทเป็นผู้นำในการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์

แต่ผู้นำที่กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าเขาจะยังคงใช้อิทธิพลต่อไป แม้ว่าจะออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ปัดความคิดที่ว่าประเทศอาจเปลี่ยนทิศทาง

ในการประกาศของฮุนเซนวันนี้ (26) เขากล่าวว่าเขาจะดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และทำหน้าที่เป็นประมุขแห่งรัฐเมื่อกษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศ

ภายใต้การปกครองของฮุนเซน กัมพูชาเพิ่มความใกล้ชิดกับปักกิ่ง และได้ประโยชน์จากการลงทุนและโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของจีน รวมถึงการปรับปรุงฐานทัพเรือที่ทำให้วอชิงตันวิตกกังวล

จีนยินดีกับการเลือกตั้งของกัมพูชาในวันอาทิตย์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังส่งข้อความแสดงความยินดีเป็นการส่วนตัวต่อฮุนเซน

แต่เม็ดเงินของจีนที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศยังนำมาซึ่งปัญหา ที่รวมถึงการตั้งกาสิโนเป็นจำนวนมากและการฉ้อโกงหลอกลวงทางออนไลน์ที่มีพนักงานเป็นแรงงานต่างชาติ ที่หลายคนถูกค้ามนุษย์และตรากตรำทำงานในสภาพที่น่าตกใจ

นักวิจารณ์กล่าวว่า การปกครองของฮุนเซนยังเต็มไปด้วยปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมและการรับสินบนที่ฝังรากลึก

กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 150 จาก 180 ประเทศในดัชนีการรับรู้การทุจริตขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ และเฉพาะในเอเชีย มีเพียงพม่าและเกาหลีเหนือเท่านั้นที่มีอันดับต่ำกว่า

กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาฮุนเซนใช้ระบบกฎหมายบดขยี้ผู้ที่ต่อต้านการปกครองของเขา ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวที่วิพากษ์วิจารณ์และแกนนำสหภาพแรงงาน ตลอดจนนักการเมือง

นักการเมืองฝ่ายค้านจำนวนมากถูกตัดสินความผิดและถูกจำคุกในช่วงที่เขาครองอำนาจ และกฎหมายถูกปรับเปลี่ยนก่อนการเลือกตั้ง เพื่อทำให้การเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำบัตรเสียเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

5 วันก่อนวันเลือกตั้ง ทางการได้ตัดสิทธิทางการเมืองของ สม รังสี เป็นเวลา 25 ปี จากการเรียกร้องให้ประชาชนทำบัตรเสีย ส่วนแกม สุขา หัวหน้าฝ่ายค้าน ถูกตัดสินความผิดในข้อหากบฏเมื่อเดือน มี.ค. และถูกตัดสินจำคุก 27 ปี จากข้อหาวางแผนโค่นล้มรัฐบาลของฮุนเซน โดยปัจจุบันเขากำลังรับโทษด้วยการกักบริเวณในบ้าน.