เอพี - อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นของกัมพูชาว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่หลากหลายครอบคลุม หลังพรรคฝ่ายค้านพรรคหลักของประเทศไม่ได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนร่วมการเลือกตั้ง
พรรคแสงเทียนจะเป็นผู้ท้าชิงที่น่าเชื่อถือเพียงรายเดียวต่อพรรคประชาชนกัมพูชา ที่เป็นพรรครัฐบาลในการเลือกตั้งเดือน ก.ค.นี้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สภารัฐธรรมนูญของประเทศ ปฏิเสธที่จะยกเลิกคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ห้ามพรรคแสงเทียนจดทะเบียน การตัดสินที่ไม่สามารถอุทธรณ์ได้อีก
“เลขาธิการใหญ่ย้ำว่าการเลือกตั้งแบบครอบคลุม ที่มีมุมมองและตัวเลือกสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่หลากหลาย มีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการการเลือกตั้งและส่งเสริมความสามารถของประชาชนกัมพูชาในการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยของพวกเขา” โฆษกสหประชาชาติกล่าวกับนักข่าว
“ดังที่กูเตอร์เรสกล่าวระหว่างการเยือนกัมพูชาปีที่แล้ว เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดพื้นที่พลเมือง ให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้รับการคุ้มครอง และภาคประชาสังคมมีบทบาทกว้างขึ้นในสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญต่อการรักษาผลประโยชน์จากการพัฒนาและสันติภาพของกัมพูชา” สเตฟาน ดูจาร์ริค กล่าว
เขากล่าวว่า “เลขาธิการใหญ่ยืนยันความมุ่งมั่นของสหประชาชาติในการสนับสนุนกัมพูชาที่สงบสุขและเป็นประชาธิปไตย ที่เคารพสิทธิมนุษยชนของพลเมืองทุกคนอย่างเต็มที่”
พรรคประชาชนกัมพูชากุมอำนาจมานานหลายทศวรรษและควบคุมรัฐบาลเกือบทุกระดับ และนายกรัฐมนตรีฮุนเซนดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมานานถึง 38 ปี
การไม่มีพรรคแสงเทียน ทำให้มีเพียงพรรคของฮุนเซน พันธมิตรของเขา และพรรคการเมืองเล็กๆ ร่วมแข่งขันในการเลือกตั้ง ชิงเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 125 ที่นั่ง ในวันที่ 23 ก.ค.
ฮุน มาเนต บุตรชายคนโตของฮุนเซน ถูกคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนบิดาของเขาหลังการเลือกตั้ง
ก่อนที่สภารัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน ผู้ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอิสระของสหประชาชาติ ได้กล่าวเตือนถึงการจำกัดสิทธิพรรคการเมืองในการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง
หลังสภารัฐธรรมนูญปฏิเสธที่จะกลับคำตัดสินของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่าจะไม่ส่งผู้สังเกตการณ์อย่างเป็นทางการเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการเลือกตั้งครั้งนี้
การดำเนินการทางกฎหมาย การข่มขู่ คุกคาม และการตั้งข้อหาทางอาญาที่มีแรงจูงใจทางการเมืองที่มุ่งเป้าไปยังฝ่ายค้าน สื่ออิสระ และภาคประชาสังคม บ่อนทำลายพันธะสัญญาระหว่างประเทศของกัมพูชาที่จะพัฒนาเป็นประชาธิปไตยแบบหลายพรรค” โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ
พรรคแสงเทียนเป็นผู้สืบทอดอย่างไม่เป็นทางการของพรรคกู้ชาติกัมพูชา ที่เคยเป็นความท้าทายต่อพรรคของฮุนเซน ก่อนศาลสั่งยุบพรรคก่อนการเลือกตั้งปี 2561
พรรคของฮุนเซนกวาดชัยในการเลือกตั้งดังกล่าว ชนะทุกที่นั่งในสภา และชาติตะวันตกได้ประกาศว่าการเลือกตั้งปี 2561 ไม่เสรีและไม่ยุติธรรม และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ไม่รุนแรงนักเป็นการตอบโต้
นักการเมืองฝ่ายค้านที่โดดเด่นส่วนใหญ่ลี้ภัยอยู่ต่างแดนเพื่อเลี่ยงการถูกจำคุกจากข้อหาต่างๆ ที่พวกเขากล่าวว่าถูกกุขึ้นและไม่ยุติธรรม.