เอพี - ผู้คนหลายพันชีวิตพากันหลบอยู่ตามวัดและโรงเรียนต่างๆ วานนี้ (14) เพื่อหลบภัยจากพายุรุนแรงที่ซัดถล่มชายฝั่งของพม่า ที่ทำให้หลังคาบ้านเรือนปลิวหาย และอิทธิพลของพายุยังทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน
ไซโคลนโมคาขึ้นฝั่งในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (14)ในรัฐยะไข่ของพม่า ใกล้เมืองสิตตะเว ด้วยความเร็วลม 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามการระบุของกรมอุตุนิยมวิทยาของพม่า ก่อนหน้านี้ พายุได้พัดผ่านเกาะเซนต์มาร์ติน ของบังกลาเทศ ที่สร้างความเสียหายและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมุ่งหน้าขึ้นฝั่ง
ในตอนกลางคืน ขอบเขตของความเสียหายในเมืองสิตตะเวยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน และต่อมาในช่วงเช้า กระแสลมพัดแรงทำเสาไฟและเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือล้มพังเสียหาย ที่ส่งผลให้การสื่อสารในพื้นที่ถูกตัดขาด
จากคลิปวิดีโอที่สื่อท้องถิ่นรวบรวมไว้ก่อนที่การสื่อสารจะถูกตัด พบว่า ถนนหนทางหลายสายมีน้ำท่วมสูง ขณะที่กระแสลมซัดต้นไม้และป้ายต่างๆ โค่นล้ม
สื่อในรัฐยะไข่รายงานว่า ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต้องติดอยู่ในบ้านตนเอง
สำนักงานข้อมูลทางทหารของพม่าระบุว่าพายุสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน หม้อแปลงไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เรือ และเสาไฟ ในเมืองสิตตะเว เมืองจอก์พยู และเมืองกวา และระบุว่า พายุยังพัดหลังคาอาคารกีฬาบนเกาะโคโคพังเสียหายเช่นกัน
ชาวสิตตะเวมากกว่า 4,000 คน จากทั้งหมด 300,000 คน ต้องอพยพไปเมืองอื่น และอีกกว่า 20,000 คน ต้องหลบภัยอยู่ในอาคารที่แข็งแรง เช่น วัด และโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงของเมือง ติน นาย อู อาสาสมัครในศูนย์พักพิงในเมืองสิตตะเว กล่าว
ลิน ลิน ประธานมูลนิธิการกุศลในท้องถิ่นกล่าวว่า ที่ศูนย์พักพิงในเมืองสิตตะเว มีอาหารแจกจ่ายไม่เพียงพอ เนื่องจากมีคนเดินทางมาหลบภัยมากกว่าที่คาดไว้
ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติในพม่าระบุผ่านทวีตเตอร์ว่า พายุโมคาขึ้นฝั่งแล้ว ประชาชน 2 ล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยง คาดว่าความเสียหายและความสูญเสียเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง เราพร้อมที่จะตอบสนองและจำเป็นต้องเข้าถึงชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดโดยไม่ถูกขัดขวาง
ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการพม่ารายงานว่ารัฐบาลทหารกำลังเตรียมส่งอาหาร ยา และบุคลากรทางการแพทย์ไปยังพื้นที่ประสบภัย หลังจากพัดถล่มรัฐยะไข่แล้ว ไซโคลนได้อ่อนกำลังลงและคาดว่าจะพัดลถ่มรัฐชิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และพื้นที่ภาคกลางในวันนี้ (15)
ในเช้าวันอาทิตย์ (14) มีรายงานพบผู้เสียชีวิตหลายรายจากลมและฝน โดยทีมกู้ภัยจากรัฐชาน ทางตะวันออกของประเทศ ประกาศทางหน้าเพจเฟซบุ๊กว่าพวกเขากู้ศพของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ถูกฝังในบ้านหลังเกิดดินถล่มเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในเมืองท่าขี้เหล็ก สื่อท้องถิ่นยังรายงานพบชายคนหนึ่งถูกต้นไทรล้มทับเสียชีวิตในเมืองปินอูละวิน เขตมัณฑะเลย์ ทางภาคกลางของประเทศ.
