รอยเตอร์ - การผลักดันของสหรัฐฯ ที่จะยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนามในปีนี้ กำลังเผชิญกับการต่อต้านในกรุงฮานอย จากสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นความกังวลที่เกรงว่าจีนอาจมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์ในช่วงเวลาของความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน
สหรัฐฯ กำลังหวังที่จะยกระดับความสัมพันธ์ในปีนี้ ซึ่งจะตรงกันกับวาระครบรอบ 10 ปี ของความเป็นหุ้นส่วนรอบด้านกับเวียดนามในเดือน ก.ค.
สหรัฐฯ เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในเวียดนามและคณะผู้แทนทางธุรกิจของสหรัฐฯ กลุ่มใหญ่เดินทางเยือนเวียดนามในสัปดาห์นี้
แม้ว่าสหรัฐฯ จะเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม แต่ปัจจุบัน สหรัฐฯ ถูกจัดอันดับให้เป็นหุ้นส่วนทางการทูตระดับ 3 ของฮานอย ในขณะที่ระดับ 1 คือจีน รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้ ส่วนระดับ 2 ที่วอชิงตันต้องการเข้าร่วม ประกอบด้วยประเทศในยุโรปและญี่ปุ่น
ตัวแทนของมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ของเยอรมนีในเวียดนาม กล่าวว่า การยกระดับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในปีนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องจริง
แม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นไปในเชิงสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้นำของเวียดนามกำลังลังเล และเกรงว่าอาจถูกตอบโต้จากจีน ตามการระบุของผู้เชี่ยวชาญที่อ้างถึงการหารือกับเจ้าหน้าที่เวียดนาม
“จากการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความใกล้ชิดระหว่างจีนและเวียดนาม ฮานอยอาจรู้สึกลังเลที่จะยกระดับความเป็นหุ้นส่วนรอบด้านกับวอชิงตัน” นักวิชาการจากศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ กล่าว
จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามและเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญสำหรับภาคการผลิต
สองประเทศเพื่อนบ้านมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของความขัดแย้งและไม่ไว้วางใจ และยังคงมีความขัดแย้งกันเรื่องหมู่เกาะ ภูมิประเทศ และทรัพยากรในทะเลจีนใต้
เมื่อถูกถามว่าเวียดนามพร้อมยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ในปีนี้หรือไม่ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่าจะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลา โดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่พวกเขามีอยู่
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การประชุมหารือระดับสูงอาจเป็นโอกาสให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามบรรลุผลในนาทีสุดท้าย โดยนักการทูตหวังที่จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของพวกเขา ขณะที่ผู้นำของพวกเขาอาจพบหารือนอกรอบการประชุมสุดยอด G7 ในญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.
โฆษกของสถานทูตสหรัฐฯ ในเวียดนามกล่าวว่าสองประเทศกำลังทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับความเป็นหุ้นส่วน
ด้านนักวิชาการอาวุโสจากสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ไม่มีข้อกังขาเกี่ยวกับความต้องการของเวียดนามในการยกระดับความสัมพันธ์กับวอชิงตัน แต่ก็ไม่น่าจะตกลงกันได้ในปีนี้ แต่การยกระดับอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับสหรัฐฯ อีกต่อไปในอนาคต.