MGR Online - แม้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 15 ยกเลิกการทำไม้และส่งออกไม้ทุกชนิดมาตั้งแต่ปี 2559 แต่อุตสาหกรรมไม้ของลาวยังคงเดินหน้าไม่หยุด ล่าสุด เกิดเหตุรถขนไม้ท่อนส่งออกเวียดนามบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำสะพานหักกลางที่แขวงอัตตะปือ เป็นหลักฐานชัดให้คนตั้งคำถามว่าคำสั่งนี้ยังศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่
เช้าวันนี้ (20 มี.ค.) ใน สปป.ลาว ได้มีเหตุการณ์ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั่วทั้งชุมชนออนไลน์อีกครั้ง เมื่อมีรถบรรทุกไม้ขนาดใหญ่คันหนึ่งขนไม้ท่อนจำนวนมากไว้เต็มคันรถ กำลังขับข้ามสะพานจากบ้านมิดสำพัน เพื่อไปบ้านหาดยาว เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ
แต่ด้วยน้ำหนักไม้ที่บรรทุกมามากเกินกว่าที่สะพานจะรับได้ไหว ทำให้สะพานได้หักกลางลงเป็นรูปตัววี ทั้งรถและไม้ที่บรรทุกมายุบตกลงไปยังร่องน้ำด้านใต้ โชคดีที่เป็นฤดูแล้งซึ่งร่องน้ำแห้ง จึงไม่มีผู้จมน้ำเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทั้งสองฝั่ง ที่ต้องใช้สะพานแห่งนี้ข้ามสัญจรไปมา โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ต้องไปเรียนหนังสือ ไม่สามารถขี่จักรยาน หรือจักรยานยนต์ข้ามสะพานได้อีกแล้ว ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีเดินลงไปในร่องน้ำข้างใต้เพื่อข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งแทน
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในชุมชนออนไลน์ของลาว ต่างตั้งข้อสงสัยว่าในลาวนั้น มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 15/นย. ที่ออกโดยนายกรัฐมนตรี ทองลุน สีสุลิด ตั้งแต่เมื่อปี 2559 ที่ให้ยกเลิกอุตสาหกรรมไม้ในประเทศทั้งหมด โดยห้ามตัดไม้และส่งออกไม้ทุกชนิดไปต่างประเทศ และจนถึงปัจจุบัน คำสั่งฉบับนี้ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ แต่ทำไมจึงมีรถบรรทุกขนส่งไม้ท่อนลักษณะนี้วิ่งอยู่ตาท้องถนน
คนในท้องถิ่นได้เข้ามาให้ข้อมูลว่า รถคันนี้กำลังขนส่งไม้เพื่อส่งออกไปประเทศเวียดนาม ที่มีชายแดนติดกับแขวงอัตตะปือ ขณะเดียวกัน คนต่างแขวงอีกหลายคนที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนเวียดนาม ได้เข้ามาให้ข้อมูลในทำนองเดียวกันว่า ทุกวันนี้ บนถนนที่วิ่งไปชายแดนลาว-เวียดนาม ยังพบเห็นรถบรรทุกไม้วิ่งอยู่เป็นเรื่องปกติ ซึ่งแสดงว่ามีผู้มีอิทธิพลที่กล้าทำอุตสาหกรรมไม้ส่งออกอยู่ ทั้งที่กฎหมายได้สั่งยกเลิกไปเป็นการถาวรแล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 เมื่อครั้งที่นายทองลุน สีสุลิด เพิ่งขื้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลาวได้ไม่นาน ได้ลงนามในคำสั่งฉบับที่ 15/นย. ว่าด้วยการเพิ่มทวีความเข้มงวดในการคุ้มครองและตรวจตรา การขุดค้นไม้ การเคลื่อนย้ายไม้ และธุรกิจไม้ ซึ่งสามารถเรียกเสียงชื่นชมจากคนลาวทั้งประเทศ
เนื้อหาสำคัญตามคำสั่งฉบับนี้ ในข้อ 2 ให้ยุติการส่งออกไม้ท่อน ไม้แปรรูป รากไม้ เหง้าไม้ ตอไม้ ไม้ยืนต้น ไม้ประดับ ที่ขุดออกจากป่าธรรมชาติไปต่างประเทศในทุกกรณี รวมถึงไม้ที่รัฐบาลได้เคยอนุมัติไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้มีการส่งออก โดยให้นำไม้ดังกล่าวมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ตามมาตรฐานที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากำหนด แล้วจึงจะอนุญาตให้ส่งออก
ข้อ 5 ในเขตพัฒนาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เขตขุดค้นแร่ธาตุ และพื้นที่การผลิตต่างๆ ที่รัฐบาลยังไม่ได้อนุมัติ ห้ามมิให้มีการสำรวจและขุดค้นไม้อย่างเด็ดขาด
ข้อ 6 ให้ยุติการเสนอ และอนุญาตเก็บกู้ท่อนไม้ กิ่งไม้ ไม้ท่อนสั้น ไม้ขอน และไม้ยืนต้นตาย และไม่อนุญาตให้มอบไม้เหล่านี้ให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ข้อ 7 ให้กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ เป็นแกนกลางร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องลงตรวจตรา เก็บข้อมูลโดยละเอียดของจำนวน ปริมาตรไม้ ตามพันธะคงค้างที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลก่อนหน้า รายงานให้รัฐบาลปัจจุบันพิจารณาที่จะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมูลขายให้แก่สมาคมอุตสาหกรรมปรุงแต่งไม้แห่งชาติ สมาคมเฟอร์นิเจอร์ลาว หรือผู้ประกอบการอื่นๆ เพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปขายในประเทศ หรือส่งออก โดย
7.1 ไม้ที่ขุดค้นเกินแผนการที่รัฐบาลอนุมัติ ให้ยึดเป็นของรัฐ และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด
7.2 ไม้ที่ขุดค้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดระเบียบกฎหมาย และยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ ห้ามมิให้เก็บกู้ เพราะจะเป็นช่องว่างให้เกิดการลักลอบตัดไม้ต่อไป
ในคำสั่งนี้ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงป้องกันประเทศ ออกสำรวจตรวจตราพื้นที่ป่าไม้อย่างเข้มงวด รวมถึงห้ามด่านชายแดนทุกประเภท ทั้งด่านสากล ด่านท้องถิ่น ด่านประเพณี อนุญาตหรืออำนวยความสะดวกในการส่งออกไม้ หรือของป่าตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 ของประกาศฉบับนี้โดยเด็ดขาด
คำถามซึ่งแทบทุกคนที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ข่าวสะพานที่เมืองสะหนามไซหักเมื่อเช้าวันนี้ คือ คำสั่งฉบับที่ 15/นย. ยังคงความศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่.