รอยเตอร์ - ประชาชนอย่างน้อย 22 คน รวมพระสงฆ์ 3 รูป ถูกยิงเสียชีวิตในระยะประชิด ในพื้นที่ทางภาคกลางของพม่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามรายงานการชันสูตรศพของแพทย์ ในสิ่งที่ฝ่ายต่อต้านการปกครองของทหารกล่าวว่า เป็นการสังหารหมู่พลเรือนที่ดำเนินการโดยกองทัพ
โฆษกของรัฐบาลทหารที่ก่อการรัฐประหารเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กล่าวว่า กองกำลังทหารของตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปะทะกันกับกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่เมืองปินหลวง ทางตอนใต้ของรัฐชาน แต่ไม่ได้ทำอันตรายใดๆ ต่อพลเรือน
ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารระบุในคำแถลงว่า กองกำลัง KNDF และกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งได้เข้าไปในหมู่บ้านน้ำเน็ง หลังกองกำลังของรัฐเข้าไปถึงเพื่อรักษาความปลอดภัยพร้อมกับกองกำลังทหารอาสาในพื้นที่
“เมื่อกลุ่มก่อการร้ายเปิดฉากยิงอย่างรุนแรง ชาวบ้านบางคนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ” ซอ มิน ตุน กล่าว
ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของคำกล่าวอ้างใดๆ ได้อย่างอิสระ และไม่มีการตอบสนองจากโฆษกรัฐบาลทหารเมื่อรอยเตอร์ติดต่อเพื่อขอความคิดเห็นเพิ่มเติม
ด้านโฆษกของ KNDF กล่าวว่า ทหารของฝ่ายตนได้เข้าไปในหมู่บ้านน้ำเน็งในวันอาทิตย์ (12) และพบศพกระจัดกระจายอยู่ในวัดแห่งหนึ่ง
คลิปวิดีโอ และภาพถ่ายจากกลุ่มติดอาวุธ KNDF และ KRU เผยให้เห็นบาดแผลจากกระสุนตามลำตัวและศีรษะของศพ และรูกระสุนตามกำแพงวัด แต่รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาเหล่านี้ได้
รายงานการชันสูตรพลิกศพของนายแพทย์เย ซอ จากรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) กล่าวว่า มีแนวโน้มว่ามีการใช้อาวุธอัตโนมัติในระยะประชิดเพื่อสังหารผู้คน 22 คน รวมทั้งพระสงฆ์ 3 รูป
“เนื่องจากไม่พบเครื่องแบบทหาร อุปกรณ์และเครื่องกระสุนตามส่วนอื่นๆ ของศพ จึงชี้ได้ว่าคนเหล่านี้เป็นพลเรือน และเนื่องจากศพทั้งหมดถูกพบในบริเวณวัดน้ำเน็ง จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นการสังหารหมู่” รายงานระบุ
การสู้รบในพื้นที่ดำเนินไปอย่างดุเดือดเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยมีอาคารสิ่งปลูกสร้างราว 100 หลัง ถูกเผาทำลายรอบบริเวณที่เกิดเหตุสังหารหมู่ในหมู่บ้านน้ำเน็ง ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น กองกำลังต่อต้าน และภาพถ่ายดาวเทียมที่ตรวจสอบโดย Myanmar Witness องค์กรที่เก็บข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้อยู่ในภาวะวิกฤตนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในเดือน ก.พ.2564 ยุติขั้นตอนสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ดำเนินมาได้เพียงทศวรรษเดียวจากการโค่นล้มรัฐบาลที่อยู่ภายใต้การนำของอองซานซูจี
ขบวนการต่อต้านที่บางส่วนติดอาวุธผุดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งกองทัพตอบโต้ด้วยกำลังรุนแรงและตีตราว่าฝ่ายต่อต้านเหล่านี้เป็นผู้ก่อการร้าย กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์บางกลุ่มก็เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเช่นกัน
อ่อง เมียว มิน รัฐมนตรีกระทรวงสิทธิมนุษยชนในรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลทหารได้เพิ่มปฏิบัติการการสู้รบและโจมตีกลุ่มพลเรือนไร้อาวุธอย่างน้อย 4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
“เห็นได้ชัดเจนว่ากลยุทธ์ของรัฐบาลทหารมุ่งเป้าที่พลเรือน ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” อ่อง เมียว มิน กล่าวกับนักข่าวผ่านทางออนไลน์
รัฐบาลทหารปฏิเสธว่าไม่ได้มุ่งเป้าที่พลเรือน และกล่าวว่า กองกำลังของตนตอบโต้เฉพาะการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเท่านั้น
ประชาชนอย่างน้อย 3,137 คน เสียชีวิตในการปราบปรามของทหารนับตั้งแต่การรัฐประหาร ตามการระบุของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ขณะที่สหประชาชาติกล่าวหาว่ากองทัพก่ออาชญากรรมสงคราม และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ.
