เอเอฟพี - เนสท์เล่ (Nestle) บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ จะหยุดการผลิตทั้งหมดในพม่า ตามการเปิดเผยของโฆษกบริษัทวานนี้ (27) นับเป็นบริษัทล่าสุดที่ถอนตัวออกจากประเทศหลังการรัฐประหารเมื่อ 2 ปีก่อน
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้อยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่กองทัพขับไล่รัฐบาลของอองซานซูจี และก่อให้เกิดความไม่สงบเป็นวงกว้าง และทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ
นับแต่นั้นบริษัทต่างชาติจำนวนมากได้ถอนตัวออกจากตลาด รวมถึงบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่างโททาลเอเนอร์ยี และเชฟรอน และเทเลนอร์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของนอร์เวย์
“เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โรงงานของเนสท์เล่ในย่างกุ้ง รวมถึงสำนักงานใหญ่จะยุติการดำเนินการ” โฆษกของบริษัทกล่าวกับเอเอฟพี โดยไม่ได้ระบุกรอบเวลา
เนสท์เล่จำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปเนสกาแฟ บะหมี่แม็กกี้ และเครื่องดื่มมอลต์ช็อกโกแลตไมโลในพม่า ทั้งนี้ บริษัทพม่าจะเข้าทำการตลาดและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่จากไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์แทน โฆษกระบุ
“เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อสนับสนุนทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจนี้” พวกเขากล่าวเสริมโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนพนักงานที่เนสท์เล่จ้างในประเทศ
นักลงทุนหลั่งไหลเข้ามาในพม่าหลังกองทัพคลายการยึดกุมอำนาจในปี 2554 ปูทางสู่การปฏิรูปประชาธิปไตยและเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ
แต่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากผลพวงของการรัฐประหารในปี 2564 โดยมีคนตกงานมากกว่า 1 ล้านคน ตามการระบุขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
การรัฐประหารยังก่อให้เกิดการสู้รบครั้งใหม่กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ตลอดจนกองกำลังพิทักษ์ประชาชนที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลทหาร
ประชาชนมากกว่า 3,000 คน เสียชีวิตจากการปราบปรามผู้เห็นต่างของทหารนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจ และมากกว่า 19,000 คนถูกจับกุมตัว ตามการระบุของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น
ทั้งนี้ เนสท์เล่ทำรายได้จากการจำหน่ายทั่วโลกราว 95,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา.