MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาวิพากษ์วิจารณ์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.พระตะบอง หลังคลิปวิดีโอครูใช้ปัตตาเลี่ยนไถผมนักเรียนชายกลางห้องเรียนเพื่อเป็นการลงโทษแพร่สะพัดบนสื่อสังคมออนไลน์
ผู้นำเขมรกล่าวว่า โรงเรียนดังกล่าวควรปฏิบัติต่อนักเรียนเหมือนเป็นลูกหลานของตัวเอง เด็กเหล่านั้นไม่ควรถูกลงโทษเพียงเพราะผมยาวเกินไป ขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องให้ผู้คนหยุดพูดถึงประเด็นนี้
“บรรดาครูอาจารย์หากเราต้องการแก้ไขให้ถูกต้อง ก็ไม่ควรใช้ปัตตาเลี่ยนไถผมนักเรียนกลางห้อง นักเรียนของเราก็เหมือนลูกหลานของเรา” ฮุนเซน กล่าว และเสริมว่าเมื่อโรงเรียนมีปัตตาเลี่ยนตัดผมก็ควรนำไปใช้ตัดผมนักเรียนอย่างเหมาะสม และผมของครูบางคนก็ดูยาวกว่านักเรียนอีกด้วย
“ผมอยากจะขอให้เปลี่ยนทัศนคติการบังคับนักเรียนตัดผม” ฮุนเซนกล่าว และระบุว่าเขายังได้ยินมาว่าโรงเรียนกำหนดให้นักเรียนตัดผมทรงทหาร
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. โรงเรียนมัธยมแห่งนี้ได้โพสต์บนหน้าเพจเฟซบุ๊กว่าครูที่ถือปัตตาเลี่ยนและกรรไกรตัดผมกำลังลงโทษนักเรียนชาย
โพสต์ดังกล่าวของโรงเรียนถูกวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ และก่อให้เกิดการถกเถียง
โรงเรียนระบุในคำแถลงว่า โรงเรียนพยายามเสริมสร้างระเบียบวินัยด้วยการตรวจตราเสื้อผ้า เล็บมือ เล็บเท้า การแต่งหน้า และทรงผมของนักเรียน และในระหว่างการตรวจเมื่อวันที่ 23 ม.ค. พบว่านักเรียนบางคนมีทรงผมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งคำแถลงยังยืนยันว่าโรงเรียนดำเนินการเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2560
นอกจากนี้ โรงเรียนระบุว่าในช่วงต้นปีการศึกษาแต่ละปี โรงเรียนจะแจ้งให้พ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนทราบเกี่ยวกับระเบียบวินัยเหล่านี้
พา จันเรือน ประธานสถาบันเพื่อประชาธิปไตยแห่งกัมพูชากล่าวว่า เขาเข้าใจถึงเจตนาของโรงเรียน ซึ่งเขาไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเลวร้าย แต่อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าวิธีการในการเสริมสร้างระเบียบวินัยที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิและทำลายศักดิ์ศรีของเยาวชน
“วิธีที่ครูหรือฝ่ายปกครองของโรงเรียนทำเพื่อเสริมสร้างระเบียบวินัยหรือทำโทษนั้นเป็นสิ่งที่ทำกันในสมัยโบราณ แต่ในยุคการศึกษาสมัยใหม่ เราไม่ทำเช่นนี้” ประธานสถาบันเพื่อประชาธิปไตยแห่งกัมพูชา กล่าว
“เราไม่ใช้วิธีที่ทำให้นักเรียนต้องรู้สึกอับอาย ควรใช้วิธีที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและกระตุ้นให้นักเรียนปรับปรุงและปฏิบัติตามโรงเรียนในวิธีที่มองว่าเป็นสิ่งดีสำหรับพวกเขา” พา จันเรือน กล่าว
อัม สัม อัธ ผู้อำนวยฝ่ายปฏิบัติการขององค์กรสิทธิมนุษยชน Licadho กล่าวว่าโรงเรียนแต่ละแห่งมักมีกฎระเบียบของตนเอง แต่พวกเขาล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือระเบียบวินัยที่ดีและความเคารพจากนักเรียน
“ผมสนับสนุนการฝึกระเบียบวินัยให้นักเรียนให้เคารพกฎระเบียบของโรงเรียน แต่การลงโทษทั้งหมดควรมีความเหมาะสม การละเมิดอย่างรุนแรงต่อนักเรียนอย่างที่เราได้เห็นในอดีตและโรงเรียนบางแห่งที่ตีนักเรียนจำเป็นต้องถูกวิจารณ์” อัม สัม อัธ กล่าวกับสื่อท้องถิ่น.