MGR ออนไลน์ - กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนสุดอบอุ่น หลังจากชาวจีนได้กลับมาเยือนประเทศอีกครั้งหลังจากทางการแดนมังกรยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางเนื่องจากโควิด-19
พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการจัดขึ้นที่สนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ จ.พระสีหนุ ในวันนี้ (27) โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการท่องเที่ยว สำนักเลขาธิการการบินพลเรือน และผู้แทนจากหน่วยงานประจำจังหวัดพระสีหนุ ร่วมในพิธี
ผู้โดยสารชาวจีน 104 คน บนเครื่องของสายการบินรุยลี่ ที่เดินทางมาจากสนามบินนานาชาติคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน ลงจอดสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ ได้รับมอบช่อดอกไม้พร้อมกับการแสดงต้อนรับ
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่า กัมพูชาพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีน และจากทั่วโลกโดยไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 หรือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 นักท่องเที่ยวมีอิสระที่จะเดินทางไปทุกที่ในกัมพูชา
“ถัดจากสีหนุวิลล์ เราจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ และเสียมราฐ” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าว
ด้านเลขาธิการการบินพลเรือนกัมพูชา กล่าวว่า เขาคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนกัมพูชาจะกลับไปแตะระดับก่อนเกิดโรคระบาดภายใน 2-3 ปี
“เราหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเยือนกัมพูชาและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง” เลขาธิการการบินพลเรือน กล่าว
จีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในยุคก่อนเกิดโรคระบาด ตามที่ระบุในรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยว โดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเยือนกัมพูชา 2.36 ล้านคน สร้างรายได้ราว 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวเผยกับสำนักข่าวของจีนว่า กัมพูชาตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างน้อย 1 ล้านคนในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากเพียง 110,000 คน ในปี 2565
“จีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวขาออกที่สำคัญที่สุดของโลก ดังนั้น การกลับมาท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนจึงเป็นประโยชน์อย่างมากไม่เพียงต่อกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อทั้งโลกด้วย” ทอง คูน รัฐมนตรีการท่องเที่ยว กล่าว
ทั้งนี้ กัมพูชาตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.3 ล้านคนในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 2.3 ล้านคนในปี 2565
การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด กัมพูชามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน 6.6 ล้านคนในปี 2562 สร้างรายได้ให้ประเทศราว 4,920 ล้านดอลลาร์.