เอเอฟพี - รัฐบาลทหารจัดการเจรจากับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่มเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ที่พวกเขาควบคุม โฆษกของกลุ่มติดอาวุธเผย ในขณะที่กองทัพกำลังเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งที่สหรัฐฯ ระบุว่าเป็นเรื่องเสแสร้งหลอกลวง
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้มีกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ราว 20 กลุ่ม ที่แต่ละกลุ่มต่อสู้กันเองและต่อสู้กับกองทัพมาเป็นเวลาหลายทศวรรษเพื่อปกครองตนเองและควบคุมการค้ายาเสพติดและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ชายแดน
บางกลุ่มประณามการขับไล่รัฐบาลของอองซานซูจี เมื่อกองทัพก่อการรัฐประหารเมื่อเดือน ก.พ.2564 และเสนอที่พักพิงและฝึกอาวุธให้กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหาร
ผู้นำจากพรรครัฐชานก้าวหน้า พรรคสหรัฐว้า และกองกำลังชาติพันธุ์โกก้าง กำลังจัดการเจรจาเป็นเวลา 3 วันในกรุงเนปีดอ ตามการรายงานของสื่อของรัฐเมื่อวันศุกร์ (6)
ทั้ง 3 กลุ่มควบคุมพื้นที่ที่ค่อนข้างสงบนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร ที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย
หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ รายงานว่า ทั้ง 3 กลุ่มและรัฐบาลทหารได้หารือกันถึงความต้องการทางการเมืองของกลุ่ม และการสร้างสหภาพตามระบอบประชาธิปไตยและระบบสหพันธรัฐ
“กองทัพได้ขอให้พวกเราจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรมในพื้นที่ของเรา สำหรับพวกเราแล้ว เราจะไม่ต่อต้านคัดค้านการเลือกตั้งของพวกเขา” โฆษกของพรรครัฐชานก้าวหน้า ที่ควบคุมดินแดนทางตอนเหนือของรัฐชาน กล่าวกับเอเอฟพี
ด้านโฆษกของพรรคสหรัฐว้าไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของเอเอฟพี
ด้วยกำลังประจำการราว 25,000 นาย พรรคสหรัฐว้าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ไม่ใช่ของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเกณฑ์สมาชิกจากแต่ละครัวเรือนในเขตปกครองของตนเองที่อยู่บนพรมแดนทางเหนือของพม่าติดกับจีน
จีนยังคงเป็นพันธมิตรหลักของรัฐบาลทหารพม่าและปฏิเสธที่จะระบุว่าการยึดอำนาจของกองทัพเป็นการรัฐประหาร
กองทัพพม่าพบหารือกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ขนาดเล็ก 5 กลุ่มเมื่อเดือนก่อน ที่ต่อมาได้เผยแพร่คำแถลงร่วมสนับสนุนแผนการจัดการเลือกตั้งของรัฐบาลทหาร
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ยังกล่าวย้ำถึงแผนการของกองทัพที่จะจัดการเลือกตั้งในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ฉลองวันประกาศอิสรภาพของพม่า แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นเมื่อใด
ทั่วประเทศยังคงมีการปะทะกันอยู่เป็นประจำ โดยมีรายงานการสังหารเจ้าหน้าที่ระดับล่างของรัฐบาลทหารเกือบทุกวัน แต่รายละเอียดมักคลุมเครือและมีการตอบโต้กลับอย่างรวดเร็ว
รัฐบาลทหารระบุว่า กองกำลังทหารของพวกเขาได้โต้กลับการโจมตีในเขตจาอี้นเซะจี้ ของรัฐกะเหรี่ยง ใกล้ชายแดนไทย ของนักสู้ของ PDF และกองกำลังจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ที่เป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กลุ่มหลักอีกกลุ่มหนึ่ง
ด้านโฆษกจากกองกำลังของ KNU ได้กล่าวกับเอเอฟพีในภายหลังว่า กองทัพได้สั่งโจมตีทางอากาศและโจมตีด้วยปืนใหญ่ และทำให้สมาชิกของกลุ่มเสียชีวิต 8 ราย.