เอพี - นักอนุรักษ์ในกัมพูชาวิตกหลังพบโลมาน้ำจืดใกล้สูญพันธุ์ตาย 3 ตัว โดยแต่ละตัวตายห่างกันไม่เกิน 10 วัน
“การตายของโลมาสุขภาพดี 3 ตัวในช่วงระยะเวลาสั้นๆ บ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่น่าวิตกมากขึ้น และความจำเป็นของการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดอย่างเร่งด่วนในถิ่นที่อยู่ของโลมา” กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุ
การตายของโลมาอิรวดีครั้งล่าสุดนี้ ที่เชื่อว่ามีสาเหตุจากการเข้าไปติดกับสายเบ็ดประมงผิดกฎหมาย ยิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อช่วยรักษาสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ หรือที่เรียกว่าโลมาแม่น้ำโขง คำแถลงระบุ
WWF กล่าวว่า ซากของโลมาเพศเมียที่คาดว่ามีอายุประมาณ 7-10 ปี พบลอยอยู่ในแม่น้ำเมื่อวันเสาร์ (24) ใน จ.กระแจะ ทางตะวันออกของประเทศ และจากการตรวจสอบซากโลมาคาดว่าโลมาที่มีความยาว 196 เซนติเมตร และหนัก 93 กิโลกรัม ถูกตะขอเกี่ยวและสายเบ็ดพันรัดตัว
ผู้อำนวยการ WWF กัมพูชากล่าวในคำแถลงว่า หากไม่มีการดำเนินการในทันที กิจกรรมประมงผิดกฎหมายที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์โลมานี้จะทำลายประชากรโลมาแม่น้ำโขงในกัมพูชา
คำแถลงยังเรียกร้องให้เพิ่มการลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อปกป้องโลมาที่เหลืออยู่ในพื้นที่อนุรักษ์
การสำรวจประชากรโลมาอิรวดีครั้งแรกในกัมพูชาในปี 2540 ประมาณได้ว่ามีประชากรโลมาอยู่ทั้งหมดราว 200 ตัว และในปี 2563 ประชากรโลมาลดลงเหลือ 89 ตัว
WWF กล่าวว่า ในช่วงปี 2565 มีโลมาตาย 11 ตัว ทำให้จำนวนโลมาตายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารวมทั้งสิ้น 29 ตัว
โลมาอิรวดีจัดอยู่ในประเภทของสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) นอกจากที่แม่น้ำโขงแล้ว ยังพบโลมาเหล่านี้ในแม่น้ำอีก 2 สาย คือ แม่น้ำอิรวดีของพม่า และแม่น้ำมาฮากัม บนเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซีย
ในเดือน ก.พ. เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าของกัมพูชาประกาศการตายของโลมาอิรวดีตัวสุดท้ายในแม่น้ำโขง ซึ่งดูเหมือนจะเกิดจากการติดอวนของชาวประมง.
