รอยเตอร์ - ญาติของนักศึกษาพม่าบางคนจากทั้งหมด 7 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยศาลของประเทศที่ปกครองโดยทหาร ได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากทั่วโลกวันนี้ (6) ในขณะที่นักวิจารณ์ได้ประณามคำตัดสินว่าเป็นความพยายามครั้งใหม่ของรัฐบาลทหารที่จะกำจัดผู้เห็นต่าง
นักศึกษาทั้ง 7 คน ที่ทั้งหมดมีอายุไม่ถึง 25 ปี ถูกศาลทหารตัดสินความผิดในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงที่สังหารอดีตเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อเดือน เม.ย. โดยสหประชาชาติระบุว่า นักศึกษากลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ได้รับโทษประหารชีวิตมากกว่า 130 คน นับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในการรัฐประหารปีก่อน
“สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างใจสลาย พวกเขามีอนาคตที่สดใส ฉันอยากขอให้ทั่วโลกช่วยเหลือพวกเรา” พี่สาวของนักศึกษารายหนึ่งที่ขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวทางโทรศัพท์
การตัดสินลงโทษนักศึกษามหาวิทยาลัยดากองเมื่อเดือนที่ผ่านมา เกิดขึ้นหลังจากกองทัพพม่าถูกทั่วโลกประณามจากการประหารนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 4 คน ในเดือน ก.ค. ที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งนับเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกของประเทศในรอบหลายทศวรรษ
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าในตอนนี้ รัฐบาลทหารใช้โทษประหารชีวิตเป็นเครื่องมือทางการเมือง และเรียกร้องให้ระงับการใช้โทษประหาร และยกเลิกการใช้โทษประหารชีวิตโดยสิ้นเชิง
“การใช้โทษประหารชีวิตเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อขจัดฝ่ายตรงข้าม เป็นการยืนยันว่าพวกเขาดูหมิ่นความพยายามของอาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศที่จะยุติความรุนแรง” ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุในคำแถลง
ประชาชนมากกว่า 16,500 คน ถูกจับกุมตัว และมากกว่า 13,000 คน ยังคงถูกคุมขังนับตั้งแต่การรัฐประหาร ตามการระบุของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) องค์กรสิทธิมนุษยชนที่บันทึกการละเมิดสิทธิโดยกองทัพพม่า
เต็ง ฉ่วย พ่อของนักศึกษารายหนึ่งกล่าวทั้งน้ำตาว่าการลงโทษที่เกิดขึ้นนั้นไม่ยุติธรรม
“เราเข้าใจว่าเขาอยู่ในคุก เราแค่อยากให้เขามีชีวิตอยู่” เต็ง ฉ่วย กล่าว
โฆษกรัฐบาลทหารพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์ แต่ก่อนนี้ กองทัพเคยกล่าวว่าศาลพม่ามีความเป็นอิสระและผู้ที่ถูกจับกุมจะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่ชัดเจนว่านักศึกษาถูกประหารชีวิตเมื่อใด.