xs
xsm
sm
md
lg

นักท่องเที่ยวต่างชาติออกสำรวจเมืองฮอยอัน แห่เก็บภาพผลพวงพายุโนรู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ออนไลน์ - หลังจากพายุโนรูอ่อนกำลังลงในเช้าวันนี้ (28) นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเมืองฮอยอัน ต่างแห่กันไปที่ถนนเพื่อสำรวจเมืองโบราณจากมุมมองที่ต่างออกไป

สะพานอานโฮย ในเมืองฮอยอัน จมอยู่ใต้น้ำเนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำทูโบนเพิ่มสูงขึ้น

พายุโนรูขึ้นฝั่งที่เมืองดานัง และ จ.กว๋างนาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองฮอยอัน แหล่งมรดกโลกของยูเนสโก เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันพุธ (28) โดยมีความเร็วลมสูงสุด 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนเข้าลาวในช่วงบ่าย

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ฝนหยุดตกและท้องฟ้าเริ่มปลอดโปร่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินลุยน้ำท่วมเพื่อถ่ายภาพ ขณะที่ร้านอาหารและแผงขายอาหารยังคงปิดให้บริการ

นักท่องเที่ยวเดินผ่านกิ่งไม้ที่หักโค่นลงมาเนื่องจากลมพัดแรง นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากกล่าวว่า พวกเขาต้องการออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์หลังจากอยู่ในโรงแรมมาทั้งวัน

นักท่องเที่ยวเลือกที่จะเก็บภาพผลพวงของพายุที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งที่พัดถล่มเวียดนามในรอบ 20 ปี แทนการถ่ายภาพบ้านโบราณ ผนังสีเหลืองสด หรือเฟื่องฟ้าห้อยระย้าที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮอยอัน

คิม แชปลิน จากออสเตรเลีย เผยกับสำนักข่าวท้องถิ่นของเวียดนามว่า สถานการณ์ในเมืองฮอยอัน ‘เงียบสงบ’

“มีต้นไม้จำนวนมากอยู่บนถนน และไฟฟ้าดับ เราเดินเที่ยวในเมืองได้ไม่ไกลนัก เพราะถนนส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม” แชปลิน กล่าว

นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียรายนี้เดินทางมาพร้อมกับสามีและลูก 2 คน พวกเขาวางแผนที่จะออกจากเมืองฮอยอันในเย็นวันเสาร์ และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นโดยเร็ว เพื่อที่เธอจะสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ต่อไป

แม้ถนนบางสายในเมืองฮอยอันยังคงจมอยู่ใต้น้ำ แต่นักท่องเที่ยวไม่รีรอที่จะออกไปสำรวจและทำกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ที่กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง หลังจากหยุดไป 1 วันเนื่องจากผลกระทบของพายุโนรู

กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินไปตามถนนที่ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟในเมืองโบราณฮอยอันหลังน้ำลด

นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียอีกรายกล่าวว่ารู้สึกสบายใจเพราะอากาศสดชื่น เขาเคยมาเยือนเวียดนามหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เผชิญกับพายุ

“เมื่อคืนเราอยู่ในโรงแรมทั้งคืน ถึงแม้ว่าไฟดับ ฝนตก ลมแรง ก็ไม่ส่งผลอะไรกับพวกเรา” นักท่องเที่ยว กล่าว.




(ภาพประกอบจาก VnExpress)










กำลังโหลดความคิดเห็น