รอยเตอร์ - สื่อพม่ารายงานว่ามีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และได้รับบาดเจ็บ 17 คน หลังจากเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพยิงใส่โรงเรียน ขณะที่ฝ่ายกองทัพกล่าวว่าพวกเขาเปิดฉากยิงเนื่องจากกลุ่มกบฏใช้อาคารดังกล่าวโจมตีกองกำลังทหารของตน
พม่าตกอยู่สถานการณ์ความรุนแรงนับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขบวนการเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้าน ที่บางครั้งเป็นการต่อต้านด้วยอาวุธผุดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งกองทัพตอบโต้ด้วยกำลังรุนแรง
ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดของเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (16) ที่หมู่บ้าน Let Yet Kone ภูมิภาคสะกาย ทางตอนกลางของประเทศได้อย่างอิสระ
ตามการรายงานของสำนักข่าวมิซซิมา และอิรวดี เฮลิคอปเตอร์กองทัพได้เปิดฉากยิงใส่โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในวัดภายในหมู่บ้าน
รายงานระบุว่า เด็กบางคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่คนอื่นๆ เสียชีวิตหลังจากกองกำลังทหารเข้ามาในหมู่บ้าน
ผู้อยู่อาศัย 2 คน ที่ปฏิเสธจะระบุตัวตนเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยกล่าวทางโทรศัพท์ว่า ทหารได้เคลื่อนย้ายศพไปอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปราว 11 กิโลเมตร และฝังศพไว้
ภาพถ่ายที่โพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนสภาพความเสียหาย ซึ่งรวมถึงรูกระสุนและคราบเลือดตามอาคารเรียน
กองทัพระบุในคำแถลงว่า กองทัพกะฉิ่นอิสระ (KIA) ที่เป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่รัฐบาลทหารกำหนดให้เป็นผู้ก่อการร้าย ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในวัดและใช้หมู่บ้านเพื่อขนส่งอาวุธในพื้นที่ ขณะที่กองกำลังความมั่นคงได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ พวกเขาถูก PDF และ KIA ที่อยู่ในบ้านและวัดโจมตี
กองทัพระบุว่า ทหารได้ตอบโต้กลับ และกล่าวว่าชาวบ้านบางส่วนเสียชีวิตในการปะทะ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยายบาลของรัฐ
คำแถลงของกองทัพยังกล่าวหากลุ่มติดอาวุธว่าใช้ชาวบ้านเป็นโล่มนุษย์ และอาวุธที่ยึดได้ในเวลาต่อมานั้นยังรวมถึงระเบิดทำมือ 16 ชิ้น
ในคำแถลงหลังเหตุรุนแรงเมื่อวันศุกร์ (16) อีกฉบับหนึ่ง รัฐบาลเงาที่สนับสนุนประชาธิปไตยของพม่า หรือที่รู้จักในชื่อรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ได้กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารโจมตีโรงเรียนแบบเจาะจงเป้าหมาย
NUG ยังเรียกร้องให้ปล่อยตัวครูและนักเรียน 20 คน ที่พวกเขาระบุว่าถูกจับกุมตัวหลังจากการโจมตีทางอากาศ
รายงานขององค์กร Save the Children ระบุว่าในปี 2564 มีโจมตีโรงเรียนในพม่าเพิ่มขึ้นเป็นราว 190 ครั้ง จาก 10 ครั้งในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังพบว่าทั้งกองทัพและกลุ่มติดอาวุธใช้โรงเรียนเป็นฐานเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งกระทบต่อการศึกษาและเป็นอันตรายต่อเด็ก.