รอยเตอร์ - ผู้นำคณะรัฐบาลทหารพม่ากล่าวว่า วิกฤตในพม่าอยู่ภายใต้การควบคุม และรัฐบาลทหารจะดำเนินการทุกอย่างในอำนาจของตนจัดการเลือกตั้งในปีหน้าตามแผน โดยที่การเลือกตั้งจะปราศจากการแทรกแซงจากต่างชาติ
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA ของรัสเซียที่เผยแพร่ในวันนี้ (7) โดยเขากล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องการเลื่อนเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดไว้อย่างคร่าวๆ ในเดือน ส.ค.2566 และรัฐบาลทหารยังมีเวลาอีกมากในการฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อย
“เราให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะจัดการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ และเรากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรลุสิ่งนี้” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าว ตามการแปลของรัสเซีย
“นอกจากนี้ การเลือกตั้งต้องจัดขึ้นโดยปราศจากแรงกดดันจากภายนอก มิเช่นนั้นจะไม่ยุติธรรมและโปร่งใส และเราจะดำเนินการการเลือกตั้งของเราเองโดยไม่มีแรงกดดันจากภายนอก” ผู้นำรัฐบาลทหารพม่า กล่าว
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย นำการรัฐประหารในเดือน ก.พ.2564 ต่อรัฐบาลของอองซานซูจี จับกุมผู้นำและควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวและผู้ชุมนุมประท้วงหลายพันคน
การจับกุม สังหาร และข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงอย่างเป็นระบบของกองกำลังความมั่นคง ทำให้เกิดขบวนการต่อต้านด้วยอาวุธที่รัฐบาลทหารพยายามปราบปราม สหประชาชาติกล่าวหาว่ากองทัพสังหารหมู่และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ข้อกล่าวหาที่รัฐบาลทหารระบุว่าเป็นการแทรกแซง
บทวิเคราะห์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (5) โดยสภาที่ปรึกษาพิเศษต่อกรณีพม่า ที่เป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศอิสระ ได้ให้ข้อสรุปว่า กองทัพควบคุมประเทศอย่างมีเสถียรภาพเพียงแค่ 17% ส่วนพื้นที่ที่เหลืออยู่ภายใต้การสู้รบหรือครอบครองโดยฝ่ายตรงข้าม
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่อยู่ในรัสเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจ กล่าวว่า พม่ากำลังอยู่ในกระบวนการจัดซื้อน้ำมันจากรัสเซียและชำระเงินด้วยเงินรูเบิล เนื่องจากมีความยากลำบากในการใช้เงินสกุลอื่น
รัฐบาลทหารถูกห้ามเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคเป็นส่วนใหญ่ และจากการถูกโดดเดี่ยวดังกล่าวทำให้พม่าหันไปหารัสเซียมากขึ้นเพื่อการสนับสนุนทางการทูตและอาวุธยุทโธปกรณ์
เขากล่าวว่า ประเทศของเขาและรัสเซียต่างต้องการสันติภาพและความมั่นคง และกล่าวว่าชาติตะวันตกกำลังให้ทุนและอาวุธแก่ผู้ก่อการร้ายในพม่า
“สถานการณ์อยู่ในการควบคุม แม้ว่าปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายและหลายเหตุการณ์นั้นรุนแรง แต่นับตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา จำนวนและขนาดของเหตุการณ์ได้ลดลง แม้ว่าจะค่อยๆ ลดลง แต่ก็ลดอย่างมีนัยสำคัญ” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าว.