MGR Online - ประมวลภาพผลกระทบจากพายุมู่หลานที่พัดถล่มหลายพื้นที่ ตั้งแต่ภาคใต้ขึ้นไปยันภาคเหนือของลาว ช่วงเวลาเพียง 3 วัน กระแสน้ำซัดสะพานขาดไปแล้ว 5 แห่ง
แม้ว่าพายุดีเปรสชัน “มู่หลาน” ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ (12 ส.ค.) แต่ผลกระทบจากพายุลูกนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน ถนน สะพานในหลายพื้นที่ทั่วทั้งประเทศลาว ตลอด 3 วันที่ผ่านมา
ผลพวงของพายุมู่หลานเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคกลางและภาคใต้ของลาวก่อนในวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2565 โดยที่แขวงสะหวันนะเขต มีรายงานว่า สะพานแก้งแกบ เมืองท่าปางทอง ที่อยู่ทางตอนใต้ของแขวงถูกกระแสน้ำเชี่ยวซัดถล่มจนขาดเป็นสะพานแรก ในช่วงเย็นของวันที่ 9 สิงหาคม
เช้าวันพุธที่ 10 สิงหาคม กระแสน้ำได้ซัดถล่มสำนักสงฆ์ใหม่โซกไซ บ้านกุดฮี คุ้มกุดลำพัน เมืองท่าปางทอง ทำให้พระพุทธรูป ศาลาโรงธรรม กุฏิ กลอง ฆ้อง และสิ่งปลูกสร้างหลายรายการได้รับความเสียหาย
ที่แขวงจำปาสักในภาคใต้ ช่วงค่ำของวันที่ 10 สิงหาคม กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ซัดถล่มสะพานข้ามห้วยหมากแงว เมืองบาเจียงจะเลินสุก ในแขวงจำปาสัก จนขาดเป็นสะพานที่ 2 ทำให้การสัญจรบนถนนหมายเลข 20 เป็นอัมพาต การเดินทางและขนส่งสินค้าที่เป็นผลผลิตทางการเกษตร จากเมืองเล่างาม แขวงสาละวัน ลงมายังเมืองจำปาสัก ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง
ชาวบ้านใน 2 พื้นที่จำเป็นต้องเลี่ยงไปใช้ถนนหมายเลข 16 จากเมืองท่าแตง ไปยังเมืองปากซ่องก่อนเป็นการชั่วคราว ระหว่างซ่อมแซมสะพาน ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือน
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม แนวพายุเริ่มส่งผลกระทบขึ้นไปยังภาคกลางตอนเหนือ แม่น้ำซองในเมืองวังเวียง แขวงเวียงจันทน์ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบต่อสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอง
ช่วงเย็นของวันที่ 11 สิงหาคม สะพานข้ามน้ำพะพาย บ้านเกิน เมืองทุละคม ที่อยู่ทางใต้ลงมาจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำงึม 1 ในแขวงเวียงจันทน์ ขาดเป็นสะพานที่ 3
เส้นทางพูเก้าหลัก จากเมืองกาสีไปยังเมืองนาน ดินถล่มลงมาปิดเส้นทาง ทำให้การเดินทางจากเวียงจันทน์ไปยังหลวงพระบาง เป็นไปด้วยความยากลำบาก
วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม ผลกระทบจากแนวพายุขยับขึ้นไปทางเหนือ โดยเฉพาะที่แขวงไซยะบูลี แม่น้ำฮุ่ง แม่น้ำสายหลักของไซยะบูลี ที่ไหลผ่านกลางตัวเมือง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง ทางการเมืองไซยะบูลี ได้สั่งการให้ทหารจำนวน 600 นาย กระจายกำลังออกให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในทุกจุดที่ได้รับผลกระทบจากพายุครั้งนี้
ที่เมืองหงสา ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 11 สิงหาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลเข้าไปยังบ้านแท่นคำ และบ้านสีบุนเฮือง ที่อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าจากถ่านหินของบริษัทหงสา เพาเวอร์ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 7 กิโลเมตร สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนหลายหลัง
ตอนสายของวันที่ 12 สิงหาคม สะพานน้ำปิ่ง บ้านท่า ช่วงกิโลเมตรที่ 19 บนถนนสาย 4A เส้นทางหลักสำหรับการเดินทางจากเมืองไซยะบูลี ไปยังเมืองหงสา ขาดเป็นสะพานที่ 4
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน (12 ส.ค.) สะพานน้ำทน เมืองเงิน แขวงไซยะบูลี ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านของไทย ขาดเป็นสะพานที่ 5 กระแสน้ำที่สะสมบนภูเขายังไหลลงมาเซาะเส้นทางจากบ้านดอนขีง-ดอนไซ ในเมืองเซียงฮ่อน ตรงข้ามกับอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา จนถนนขาด ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรได้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการพัดถล่มของพายุมู่หลานในช่วง 3 วันนี้.