รอยเตอร์ - รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมของเวียดนาม เผยว่า เวียดนามจะต้องลงทุนระหว่าง 8,000-14,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีจนถึงปี 2573 เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าแห่งใหม่และขยายโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ
จากจำนวนดังกล่าว 75% จะนำไปใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ โดยให้ความสำคัญกับแหล่งพลังงานหมุนเวียนเป็นลำดับแรก และอีก 25% จะนำไปใช้ในการขยายโครงข่ายไฟฟ้า ซาง ฮว่าง อาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระบุในคำแถลง
อาน กล่าวว่า ประเทศจะพยายามระดมทุนจากนักลงทุนเอกชนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
เวียดนาม ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาค จำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งประมาณ 10% ต่อปี เพื่อรองรับเศรษฐกิจและจำนวนประชากรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ซาง ฮว่าง อาน กล่าวว่า เวียดนามที่ให้คำมั่นเมื่อปีก่อนว่าจะก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 จะเพิ่มกำลังการผลิตจากพลังงานลมนอกชายฝั่งเป็น 7 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 และเพิ่มเป็น 65 กิกะวัตต์ ภายในปี 2588 ขณะเดียวกัน ลดสัดส่วนการผลิตพลังงานจากถ่านหินลง
“เวียดนามจะไม่เพิ่มโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในแผนพัฒนาพลังงานหลักของประเทศ แต่จะคงโครงการถ่านหินที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจนถึงปี 2573 เท่านั้น” อาน กล่าว
เมื่อเดือนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการถ่านหินในอนาคตที่มีกำลังผลิตรวม 14.12 กิกะวัตต์ออกจากแผนพัฒนาพลังงานที่กำลังร่างขึ้น
ภายใต้ร่างแผนพัฒนาพลังงานฉบับล่าสุด กำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นเป็น 121 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 และเพิ่มเป็น 284 กิกะวัตต์ภายในปี 2588 จาก 76.6 กิกะวัตต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตามรายงานของสื่อทางการ.