เอพี - รัฐบาลทหารพม่าและฝ่ายตรงข้าม ได้ร่วมรำลึกวันครบรอบ 75 ปี เหตุการณ์ลอบสังหารนายพลอองซาน วีรบุรุษแห่งเอกราช บิดาของอองซานซูจี ผู้นำที่ถูกขับไล่ของประเทศ
ประชาชนรวมตัวชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในหลายเมืองทั่วประเทศในวันนี้ (19) เพื่อรำลึกถึงนายพลอองซาน สมาชิกในคณะรัฐมนตรี 6 คน และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ที่ถูกสังหารเมื่อ 75 ปีก่อน ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี 6 เดือนก่อนประเทศได้รับเอกราชจากอังกฤษ
อองซานมีอายุแค่เพียง 32 ปี เมื่อเขาถูกลอบสังหารโดยกลุ่มชายติดอาวุธที่สำนักงานเลขาธิการในนครย่างกุ้ง และอู ซอ นักการเมืองคู่แข่ง ถูกดำเนินคดีและแขวนคอฐานวางแผนลอบสังหารทางการเมืองครั้งนี้
การชุมนุมในวันอังคาร (19) ที่สลายตัวไปในระยะเวลาอันสั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกองกำลังความมั่นคง ยังได้ยกย่องผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของทหารในเดือน ก.พ.ปีก่อน ที่ขับไล่ซูจี และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเธอ
ในนครย่างกุ้ง ประชาชนได้บีบแตรรถและเปิดเสียงไซเรนดังเป็นเวลา 1 นาที เมื่อเวลา 10.37 น. ที่เป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์โจมตีในปี 2490
ภาพถ่ายและวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นผู้ชุมนุมถือป้ายและร้องตะโกนว่า “ขจัดการเหยียดเชื้อชาติ มีผู้เสียสละมากกว่า 9 คน” ในย่างกุ้ง
นับจนถึงวันจันทร์ (18) มีพลเรือน 2,091 คน ที่รวมทั้งกวี นักเคลื่อนไหว นักการเมือง และคนอื่นๆ ถูกกองกำลังความมั่นคงสังหารตั้งแต่เดือน ก.พ.2564 ตามการระบุของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง
พิธีรำลึกอย่างเป็นทางการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปียังสุสานผู้เสียสละในย่างกุ้ง ใกล้กับเจดีย์ชเวดากอง ส่วนอาคารสำนักงานเลขาธิการที่เป็นสถานที่เกิดเหตุโจมตี และพิพิธภัณฑ์นายพลอองซาน ซึ่งเป็นที่พักแห่งสุดท้ายของนายพลอองซาน และครอบครัวของเขาก่อนการลอบสังหาร ที่ถูกปิดไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ได้กลับมาเปิดให้ประชาชนเข้าชมอีกครั้งภายใต้มาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้อนุสรณ์สถานต่างๆ กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น และมีผู้มาเยี่ยมชมเพื่อแสดงความเคารพเพียงไม่กี่คน พวกเขากล่าวว่าบรรยากาศแตกต่างไปอย่างมากจากครั้งที่รัฐบาลของซูจีปกครองประเทศ
ทั้ง ซูจี และ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำรัฐบาลทหาร ไม่ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกในปีนี้
พล.อ.โซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และรองประธานสภาบริหารแห่งรัฐ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดที่เข้าร่วมพิธี และเจ้าหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจัดงานพิธีได้เป็นผู้วางพวงมาลาในนามของครอบครัวซูจี
ซูจี วัย 77 ปี ที่ถูกจับกุมหลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเธอในเดือน ก.พ.ปีก่อน ไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นในที่สาธารณะนอกจากภาพถ่าย 1 ภาพ ที่สถานีโทรทัศน์ของรัฐนำออกเผยแพร่ในเดือน พ.ค.2564 ซึ่งถ่ายมาจากภายในศาลในช่วงเริ่มต้นการดำเนินคดีอาญากับเธอ
ซูจี ถูกตัดสินจำคุก 11 ปี และถูกย้ายจากสถานที่คุมขังลับไปยังสถานที่คุมขังเดี่ยวที่สร้างขึ้นภายในเรือนจำในกรุงเนปีดอเมื่อเดือนก่อน
เธอกำลังถูกไต่สวนในคดีความจำนวนมากที่กองทัพฟ้องร้องยังสถานที่แห่งใหม่ที่สร้างขึ้นภายในบริเวณเรือนจำเดียวกัน ผู้สนับสนุนของซูจี และนักวิเคราะห์อิสระกล่าวว่าทุกข้อหาที่ฟ้องร้องเธอนั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง และเป็นความพยายามที่จะทำลายชื่อเสียงของเธอ และสร้างความชอบธรรมให้การยึดอำนาจของทหาร
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ที่ก่อตั้งขึ้นโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้งและถือว่าตนเองเป็นฝ่ายบริหารที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ ได้ถ่ายทอดสดพิธีรำลึกผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์
มาน วิน ข่าย ถั่น นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะต่อสู้กับกองทัพเคียงข้างประชาชนไปจนกว่าการปฏิวัติจะประสบความสำเร็จ.
