MGR Online - หลายพื้นที่ทั่วนครหลวงเวียงจันทน์ช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม ต่างเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ออกมาส่งแรงใจเชียร์ทีมฟุตบอลอายุต่ำกว่า 19 ปี ที่ลงสนามชิงแชมป์รายการ AFF U-19 กันอย่างครึกครื้น
ผลงานสุดประทับใจของเหล่านักเตะทีมชาติลาวรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน (AFF U-19 2022) กับทีมชาติมาเลเซีย ได้สร้างความตื่นเต้น ดีใจ และประทับใจแก่คนลาวทั่วประเทศ
แมตช์ชิงชนะเลิศซึ่งเตะกันกันที่ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงหัวค่ำของคืนวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2565 จึงทำให้หลายพื้นที่ทั่วนครหลวงเวียงจันทน์ เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ออกมาเชียร์นักกีฬารุ่นใหม่ที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจของพวกเขา โดยมีองค์กรธุรกิจหลายแห่งที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้ชาวลาวมีโอกาสได้รับชมการแข่งขันในแมตช์นี้กันแบบสะใจอย่างทั่วถึง
บนตึกเก่าแก่หัวมุมสี่แยกสีหอม ชุมชนธุรกิจดั้งเดิมในซอยเฮงบุน เส้นทางคู่ขนานทางฝั่งทิศใต้ของถนนสามแสนไท ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านอาหารอร่อยจากหลากหลายเชื้อชาติ และร้านกาแฟหรูๆ อันขึ้นชื่อของเวียงจันทน์ มีการติดตั้งจอขนาดใหญ่ ดึงสัญญานถ่ายทอดสดแมตช์ชิงชนะเลิศจากสถานีโทรทัศน์ลาวสตาร์ มาเผยแพร่ต่อให้ชาวเวียงจันทน์ได้รับชม
ตั้งแต่ตอนเย็น พื้นที่กลางสี่แยกสีหอม ต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัย ทุกคนล้วนสวมเสื้อที่แสดงสัญลักษณ์ของความเป็นลาว ติดสติกเกอร์รูปธงชาติลาวบนใบหน้า ออกมายืนเชียร์ฟุตบอลกันอย่างครื้นเครง
นอกจากที่สี่แยกสีหอมแล้ว องค์กรธุรกิจอีกหลายแห่งในนครหลวงเวียงจันทน์ยังได้นำจอทีวีขนาดใหญ่มาติดตั้งให้คนจากหลายพื้นที่ได้มารวมตัวกันเชียร์ทีมฟุตบอลทีมโปรดของพวกเขา เช่น ลานด้านหน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารเอสที ริมถนนสุพานุวง ตรงข้ามกับสนามบินนานาชาติวัดไต หรือศูนย์การค้าลาว ไอเต็ก ริมถนนกำแพงเมือง ที่อยู่ห่างออกไปจากใจกลางตัวเมืองสักหน่อย ทั้ง 2 พื้นที่นี้มีชาวเวียงจันทน์ที่พาครอบครัวออกมานั่งเชียร์ฟุตบอลกันอย่างล้นหลาม
ยังมีบรรยากาศการเชียร์ในร่ม โดยพิจิกา บุนกว้าง หรือ “มาดามโบ” นักธุรกิจอดีตประธานสโมสรเวียงจันทน์ ยูไนเต็ด ลงทุนเช่าห้องประชุมขนาดใหญ่ในโรงแรมแลนด์มาร์ค ติดตั้งจอ วางระบบแสง สี เสียง และเปิดฟรีให้แฟนบอลได้เข้าไปเชียร์แบบนั่งดูโรงหนัง
แม้ผลการแข่งขันทีมชาติลาวจะพ่ายให้ทีมชาติมาเลเซียไป 2 ประตูต่อ 0 ได้เป็นอับดับ 2 หรือรองแชมป์ของรายการนี้ แต่บรรยากาศสนุกสนาน เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วตัวเมืองเวียงจันทน์ ก็เป็นภาพประทับใจที่น่าจดจำและควรบันทึกไว้.