MGR ออนไลน์ - หลังจากสื่อจีนรายงานว่าบริษัทเสียวหมี่ (Xiaomi) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของประเทศได้เริ่มผลิตสมาร์ทโฟนในเวียดนาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ที่รวมทั้งการแสดงออกถึงความผิดหวังและความตื่นเต้นในหมู่ชาวจีน
สื่อจีน Sina รายงานว่า สมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ที่ผลิตในเวียดนามผลิตโดยบริษัท DBG Technology ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท DBG Electronics Investment Limited ของฮ่องกง ที่โรงงานมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ ใน จ.ท้ายเหวียน (Thai Nguyen) ทางภาคเหนือของเวียดนาม
หลังจากสื่อจีนรายงานความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ไม่นาน ประโยค “เสียวหมี่ผลิตสมาร์ทโฟนในเวียดนาม” กลายเป็นประโยคที่ถูกค้นหามากเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศจีน ราว 1 ล้านครั้ง และหัวข้อนี้ยังทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากในประเทศ
“เราเสียสายการประกอบของบริษัทแอปเปิล ซัมซุง และตอนนี้ก็เสียวหมี่ กระทั่งแบรนด์ในประเทศก็ยังหาทางย้ายไปต่างประเทศ ช่างน่าเสียดาย” ชาวเน็ตจีนแสดงความคิดเห็น
ส่วนชาวจีนอีกรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า “เมื่อมีโรงงานถูกสร้างขึ้น ก็จะมีการจ้างงานคนท้องถิ่น ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เวียดนามและอินเดียกำลังฉวยโอกาสของพวกเรา และก็เป็นเรื่องของเวลาก่อนที่พวกเขาจะเชี่ยวชาญเทคโนโลยีล่าสุดนี้”
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นิกเกอิ เอเชีย รายงานว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์รายใหญ่ที่สุดจากโรงงานที่ย้ายออกจากจีน เนื่องจากเวียดนามช่วยอำนวยความสะดวกให้บรรดาผู้ผลิตสามารถเข้าถึงกลุ่มการค้าสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียและสหภาพยุโรป ตลอดจนสหรัฐฯ แต่รายงานยังเตือนว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียดนามมาถึงจุดคอขวดของข้อได้เปรียบด้านที่ดินและค่าแรงที่กำลังเริ่มลดลง
จนถึงขณะนี้โรงงานของเวียดนามส่วนใหญ่ยังคงเกี่ยวข้องกับการประกอบสินค้าราคาย่อมเยา และมากกว่าครึ่งหนึ่งของคำสั่งซื้อมาจากประเทศจีน
เสียวหมี่ระบุว่า โรงงานในเวียดนามผลิตสินค้าบางรุ่นเท่านั้น และไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดเพิ่มเติม แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เช่น รุ่น Redmi 10A และ Redmi Note 11 และในอนาคต โรงงานท้ายเหวียนแห่งนี้อาจผลิตสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์ของเสียวหมี่ด้วย
นอกจากความคิดเห็นในเรื่องของการเสียโอกาสแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีชาวจีนบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าการขยายกิจการของเสียวหมี่ไปเวียดนามถือเป็นสัญญาณที่ดี
“เป็นเรื่องเหลวไหลที่หลายคนวิจารณ์เสียวหมี่ แบรนด์ของเรากำลังเติบโตในระดับโลก และการสร้างโรงงานในเวียดนามถือเป็นก้าวสำคัญของเสียวหมี่ที่จะแข่งขันกับแอปเปิลและซัมซุง” ความเห็นของชาวจีนรายหนึ่ง ระบุ
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดเวียดนามเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่ ผมเห็นชาวเวียดนามหลายคนใช้อุปกรณ์ของเสียวหมี่ ดังนั้นผมจึงสนับสนุนที่บริษัทย้ายไปเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่นั่น” ชาวจีน กล่าว และมองว่าแบรนด์จีนจะได้ประโยชน์จากแรงงานราคาถูกของเวียดนาม
ทั้งนี้ ตัวแทนของเสียวหมี่ยืนยันความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยระบุว่า บริษัทมีจุดมุ่งหมายที่จะผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับเวียดนามและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“โรงงานของเราไม่ได้ย้ายไปที่นั่นทั้งหมด” ตัวแทนของเสียวหมี่ กล่าว
การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการขนส่งและอุปทานของเสียวหมี่ไปยังภูมิภาค ดังนั้นการขยายการผลิตไปที่เวียดนามจะช่วยลดต้นทุนและเสริมความสามารถในการจัดส่งสินค้า ตัวแทนระบุ
เสียวหมี่เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ในเวียดนาม ตามรายงานไตรมาสแรกของบริษัทวิจัยตลาด Canalys ส่วนบริษัทวิจัยข้อมูล Counterpoint Research ระบุว่าเสียวหมี่ครอง 20.6% ของยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในเวียดนามในช่วง 3 เดือนแรกของปี.