รอยเตอร์ - เวียดนามเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ตั้งไว้ที่ 6.0-6.5% ในปีนี้ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนและการฟื้นตัวของโลกที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าววันนี้ (23)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัวที่ 5.03% ในไตรมาสแรกจากปีก่อนหน้า เร็วกว่าการขยายตัวที่ 4.72% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากประเทศเปิดเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกและการผลิตมากขึ้น หลังคลายข้อจำกัดด้านโรคระบาด
เล วัน แถ่ง รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวต่อสมัชชาแห่งชาติว่า โมเมนตัมของการเติบโตกำลังเผชิญกับแรงต้าน เนื่องจากการฟื้นตัวของโลกชะลอตัวจากผลกระทบของการระบาดของโรค ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย แรงกดดันจากเงินเฟ้อ และราคาน้ำที่พุ่งสูง
ห่วงโซ่อุปทานหลายแห่งยังคงหยุดชะงัก ขณะที่บริษัทต่างๆ ยังคงเผชิญกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูง
“จากสถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงต่อการบรรลุเป้าหมายปี 2565 รวมถึงเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 6.0-6.5%” แถ่ง กล่าว
แถ่งกล่าวเสริมว่า เวียดนามจะใช้มาตรการที่ยืดหยุ่นเพื่อรับประกันเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาพและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนามในเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 2.64% จากปีก่อนหน้า ที่เป็นผลจากค่าขนส่ง ค่าอาหาร และค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มสูง.