MGR ออนไลน์ - รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า บริษัทปิโตรเวียดนาม (Petrovietnam) จำเป็นต้องเร่งลงทุนในการกลั่นน้ำมันเพื่อรับประกันอุปทานภายในประเทศ และในเวลาเดียวกันต้องหยุดการส่งออกและนำเข้าน้ำมันด้วย
รองนายกรัฐมนตรีเล ซวน แถ่ง ได้กล่าวในที่ประชุมกับกลุ่มบริหารจัดการน้ำมันและก๊าซว่ากระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องควรดำเนินมาตรการในการหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบสำหรับโรงกลั่นของประเทศ ในขณะที่ประเทศยังคงส่งออก ด้วยพบว่าหน่วยงานบางส่วนของปิโตรเวียดนามรับผิดชอบในการแสวงหาและส่งออกน้ำมันดิบ ในขณะที่บางหน่วยงานกำลังนำเข้าน้ำมันดิบเพื่อการกลั่น
รองนายกฯ ยังเรียกร้องให้ปิโตรเวียดนามเร่งการลงทุนที่นิคมอุตสาหกรรมลองเซิน ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า ทางภาคใต้ ที่รวมถึงโครงการโรงกลั่นแห่งที่ 3 ของประเทศ เพื่อรับประกันว่าประเทศจะมีปริมาณน้ำมันเพียงพอต่อความต้องการ
ทั้งนี้ เวียดนามส่งออกผลผลิตน้ำมันดิบส่วนใหญ่ของประเทศ ในขณะเดียวกันก็นำเข้าน้ำมันเพื่อกลั่นสำหรับการบริโภคภายในประเทศ โดยโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าตใช้น้ำมันที่ผลิตได้ภายในประเทศ ขณะที่โรงกลั่นหงิเซินใช้น้ำมันดิบนำเข้าจากคูเวต 100%
ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันและก๊าซของเวียดนามมีอยู่ประมาณ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร นับเป็นสัดส่วนที่สูงสุดเป็นอันดับที่ 26 ของโลก แต่ผลผลิตกลับอยู่ที่อันดับ 34 เท่านั้น
รองนายกฯ เวียดนามระบุว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณของความไร้ประสิทธิภาพในการแสวงหาประโยชน์จากน้ำมันและก๊าซ และความจำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพยากรเพื่อรองรับเศรษฐกิจและผลิตในวิถีทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้ปิโตรเวียดนามมุ่งความสำคัญไปที่การพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง
น้ำมันของปิโตรเวียดนามส่วนใหญ่มาจากแหล่งน้ำมันบั๊กโฮ ที่อยู่นอกชายฝั่ง จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า ทางภาคใต้
ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ผลผลิตน้ำมันของบริษัทปิโตรเวียดนามอยู่ที่ 1.78 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีรายรับอยู่ที่ 118.73 ล้านล้านด่ง (5,200 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า.