MGR Online - “เผิง จาเซิง”อดีตผู้นำกองทัพโกก้าง ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดเขตปกครองตนเอง เสียชีวิตแล้ววันนี้ ด้วยโรคชรา ในวัย 94 ปี
กองทัพสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตยเมียนมา (Myanmar National Democratic Alliance Army : MNDAA) หรือกองทัพโกก้าง ประกาศว่า เวลา 05.40 น.วันนี้ (16 ก.พ.) เผิง จาเซิง อดีตผู้นำ MNDAA และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งเขตพิเศษหมายเลข 1 หรือเขตปกครองตนเองชาติพันธุ์โกก้าง ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบภายในบ้านพักจากโรคชรา ด้วยวัย 94 ปี
ชาวโกก้างคือชาวจีนฮั่น เป็นอดีตครอบครัวทหารกองทัพตระกูลหยาง ที่ลี้ภัยการเมืองในจีนลงมาทางใต้เมื่อเกือบ 300 ปีก่อน และลงหลักปักฐานในพื้นที่ซึ่งเป็นชายแดนพม่า-จีน ภาคเหนือของรัฐชานปัจจุบัน ตั้งแต่เมื่อปี 2383
หลังอังกฤษเข้าครอบครองรัฐชาน กำหนดให้เป็นดินแดนภายใต้อารักขาเมื่อปี 2433 ได้ปักปันเขตแดนกับจีน ปรากฏว่าเมืองโกก้างถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัฐชาน ทำให้ทุกวันนี้ ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ในเขตโกก้าง ยึดวัฒนธรรมจีนเป็นหลัก ภาษาถิ่นที่ใช้ทั้งการพูดและเขียนก็เป็นภาษาจีนกลาง เพียงแต่ใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการเท่านั้น
หลังนายพลเนวิน นำกำลังเข้ายึดอำนาจในปี 2505 ได้จับกุมและสังหารผู้นำโกก้าง ชาวโกก้างจึงได้เริ่มเคลื่อนไหว ทำสงครามต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหารพม่า
5 มกราคม 2511 เผิง จาเซิง ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยประชาชนโกก้าง (KPLA) ได้นำ KPLA เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์พม่า ต่อสู้กับกองทัพพม่า จนถึงวันที่ 11 มีนาคม 2532 KPLA ได้แยกตัวออกมา และทำสัญญาหยุดยิงกับกองทัพพม่า
รัฐบาลทหารพม่าขณะนั้นตอบแทนโดยสถาปนาเขตพิเศษหมายเลข 1 ให้ชาวโกก้างได้ปกครองตนเอง โดยเป็นมีเมืองเล่าก์ก่าย ตรงข้ามกับจังหวัดหลินชาง มณฑลยูนนาน เป็นเมืองหลวง และมี MNDAA เป็นกองกำลังติดอาวุธ
ปี 2535 เกิดความแตกแยกใน MNDAA เมื่อ หยาง โมเหลี่ยง ผู้นำคนหนึ่งปฏิวัติยึดอำนาจจากเผิง จาเซิง ทำให้ เผิง จาเซิง ต้องหนีไปอยู่กับจายลืน ผู้บัญชาการกองทัพสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย (NDAA) ประธานเขตพิเศษหมายเลข 4 เมืองลา ซึ่งเป็นลูกเขย
ปี 2537 เผิง จาเซิง โดยความช่วยเหลือจากกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) และหม่ง สาละ ผบ.MNDAA ประจำเมืองโก เมืองชายแดนรัฐชาน-จีน จังหวัดหมู่เจ้ ร่วมกันบุกยึดอำนาจคืนจาก หยาง โมเหลี่ยง ได้สำเร็จ
เขตปกครองตนเองโกก้าง ซึ่งมีเผิง จาเซิง เป็นผู้นำอยู่อย่างสงบร่มเย็นเป็นเวลากว่า 20 ปี พัฒนาจากเมืองกลางหุบเขาให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น เล่าก์ก่ายซึ่งเป็นเมืองหลวงมีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด กระทั่งซูเปอร์มาร์เกต ถนนหนทางลาดยาง และมีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยซื้อไฟฟ้ามาจากจีน
จุดเปลี่ยนของโกก้างเริ่มในปี 2552 เมื่อกองทัพพม่ากดดันให้ MNDAA แปรสภาพเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force : BGF) ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพพม่า แต่เผิง จาเซิง ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่าง MNDAA กับกองทัพพม่า
อย่างไรก็ตาม MNDAA ขณะนั้นเองไม่มีเอกภาพ เกิดแม่ทัพรุ่นใหม่ขึ้นมา ผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ ป๋าย โส่วเฉิน เป็นรองประธานเขตพิเศษหมายเลข 1 แม่ทัพรุ่นใหม่บางคนไม่พอใจเผิง จาเซิง ที่แบ่งปันอำนาจให้เฉพาะกลุ่มเครือญาติ เมื่อกองทัพพม่าต้องการให้ MNDAA แปรสภาพเป็น BGF แม่ทัพส่วนหนึ่งเห็นด้วย
ต่อมา ป๋าย โส่วเฉิน และคณะผู้บริหารระดับสูงของโกก้างอีกประมาณ 4-5 คน ถูก เผิง จาเซิง ปลด ในข้อหาเอนเอียงไปเข้ากับพม่า ป๋าย โส่วเฉิน จึงนำพรรคพวกมาสวามิภักดิ์กับกองทัพพม่า
8 สิงหาคม 2552 พล.ต.อ่อง ตาน ทุต แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองล่าเสี้ยว นำกำลังกว่า 100 นาย บุกเข้าไปในเขตโกก้าง ตรวจค้นบ้าน เผิง จาเซิง มีการเผชิญหน้ากันระหว่าง MNDAA กับทหารพม่า แต่ยังไม่มีการปะทะ อย่างไรก็ตาม ชาวโกก้างจำนวนมากหวั่นเกรงสงคราม พากันอพยพข้ามไปอยู่ฝั่งจีน
วันที่ 20 สิงหาคม มีการออกหมายจับ เผิง จาเซิง และผู้นำระดับสูงโกก้างอีก 3 คน ทหารพม่าสนธิกำลังจากหลายหน่วยเคลื่อนพลเข้าล้อมพื้นที่โกก้าง ส่วนหนึ่งเคลื่อนพลเข้าไปในเมืองเล่าก์ก่าย แต่ยังไม่มีการปะทะ MNDAA ได้สั่งเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก พร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลทหารพม่ายึดหลักสันติวิธี เพื่อไม่ให้นำสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรง
26 สิงหาคม ทหารพม่ารุกเข้ายึดเมืองเล่าก์ก่าย MNDAA ซึ่งมีกำลังพลราว 1,000 นาย ยอมถอนกำลังออกไปรอบนอก เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะในตัวเมือง และเริ่มเปิดฉากสู้รบกับกองทัพพม่าในวันรุ่งขึ้น การสู้รบขยายลุกลามไปหลายจุด เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย
29 สิงหาคม เผิง จาเซิง นำทหาร MNDAA ประมาณ 700 นาย ข้ามพรมแดนไปมอบตัวกับทางการจีน
30 สิงหาคม รัฐบาลทหารพม่า แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเขตพิเศษหมายเลข 1 ชุดใหม่ มีป๋าย โส่วเฉิน เป็นประธาน และแปรสภาพ MNDAA ที่เหลือเป็น BGF
แต่ทหาร MNDAA อีกส่วนหนึ่งยังคงต่อต้านกองทัพพม่าด้วยยุทธวิธีซุ่มโจมตี โดยมี เผิง ต้าซุน ลูกชายของ เผิง จาเซิง เป็นผู้นำ และไปตั้งฐานทัพอยู่ที่เมืองโก
อีก 5 ปีถัดมา เดือนธันวาคม 2557 เผิง จาเซิง ซึ่งขณะนั้นอายุ 86 ปี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับกับ “โฟนิกซ์เทเลวิชั่น” หรือ “iFeng” สถานีโทรทัศน์ของฮ่องกงว่า MNDAA ต้องการยึดพื้นที่ของตนคืนจากกองทัพพม่า พร้อมอ้างเงื่อนไขในข้อตกลงหยุดยิงที่เคยทำไว้เมื่อปี 2532 ว่า ไม่ต้องการแยกตัวออกจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า แต่ต้องการปกครองตนเองเหมือนกลุ่มชาติพันธุ์อื่น
เผิง จาเซิง บอกว่า แม้ชาวโกก้างพูดภาษาจีน แต่พวกเขาคือ 1 ใน 135 ชาติพันธุ์อย่างเป็นทางการของพม่า
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 MNDAA รวบรวมกำลังพลได้ประมาณ 3,000 คน เปิดฉากโจมตีค่ายทหารพม่าใกล้เมืองเล่าก์ก่าย การสู้รบเป็นไปอย่างรุนแรง กองทัพพม่าส่งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์ขึ้นยิงถล่มฐานที่มั่นของ MNDAA มีภาพ-คลิปข่าวปรากฏทางสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ของจีนอย่างต่อเนื่อง
ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินในเขตพิเศษหมายเลข 1 เป็นเวลา 3 เดือน ถือเป็นการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งแรก ตั้งแต่เขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2554
การสู้รบสิ้นสุดลงในวันที่ 12 กุมภาพันธุ์ ทหารพม่าเสียชีวิต 47 นาย เป็นนายทหาร 5 นาย มีผู้บาดเจ็บกว่า 70 นาย ชาวโกก้างประมาณ 5 หมื่นคน ลี้ภัยข้ามไปอยู่ในฝั่งจีน
20 กุมภาพันธ์ 2561 สำนักข่าวหลายแห่งเคยมีรายงานว่า เผิง จาเซิง ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครคุนหมิง มลฑลยูนนาน จนถึงวันนี้ ที่โฆษก MNDAA เพิ่งมีประกาศการเสียชีวิตจริงๆ ของเขาออกมา
ปัจจุบัน MNDAA ยังคงมีการสู้รบกับกองทัพพม่า โดยพื้นที่สู้รบส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองโก จังหวัดหมู่เจ้ เมืองหยอ จังหวัดล่าเสี้ยว ในภาคเหนือของรัฐชาน.