xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวมรัคอูฟื้นหลัง AA หยุดรบ แต่ชาวบ้านพบปัญหาใหม่จากขยะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online - การท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองมรัคอูเริ่มฟื้นตัว หลังกองทัพอาระกันหยุดรบกับทหารพม่า แต่ประชาชนจาก 40 หมู่บ้าน ตามแนวแม่น้ำเล-มโร กลับพบกับปัญหาใหม่จากขยะที่นักท่องเที่ยวทิ้งลงในแม่น้ำ

แม่น้ำเล-มโร หรือเลมิ่วตามสำเนียงพม่า เป็นแม่น้ำที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมายังเมืองมรัคอู ในรัฐยะไข่ เพื่อล่องเรือชมทัศนียภาพอันสวยงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวบ้านตามชุมชน ตลอดแนวลำน้ำ

เล-มโรมีจุดเริ่มต้นจากเทือกเขาในรัฐชิน ไหลลงทางทิศใต้เข้าสู่รัฐยะไข่ เลียบผ่านเมืองมรัคอู ห่างจากตัวเมืองทางด้านทิศตะวันออกไปประมาณ 10 ไมล์ จากนั้นไหลออกสู่ทะเลในอ่าวเบงกอลทางฟากตะวันออกของเมืองซิตต่วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากกองทัพอาระกัน(AA) เปิดฉากสู้รบกับกองทัพพม่า ในหลายพื้นที่ของรัฐยะไข่ รวมทั้งในมรัคอู เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 การนั่งเรือท่องเที่ยวตามแนวลำน้ำเล-มโร ก็ซบเซาลง โดยเฉพาะตลอดปี 2563 ที่เกิดการระบาดของโควิด-19 เข้ามาด้วย ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมานั่งเรือเที่ยวชมวิวริมน้ำเล-มโรเลยแม้แต่คนเดียว

แต่หลังจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อ AA เริ่มต้นเจรจาสันติภาพ มีการหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการกับกองทัพพม่า การนั่งเรือเที่ยวชมทัศนียภาพตามแนวลำน้ำเล-มโรใน ก็กลับมาฟื้นตัว


โก่ ส่อ ทูน ชาวเมืองมรัคอู บอกกับสำนักข่าว DMG(Development Media Group) ที่เน้นเสนอข่าวความเคลื่อนไหวภายในรัฐยะไข่โดยเฉพาะว่า ตั้งแต่ต้นปีมานี้ มีนักท่องเที่ยวมาเช่าเรือเที่ยวล่องตามลำน้ำเล-มโรทุกเดือน เฉลี่ยเดือนละประมาณ 100 คน ทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวภายใน เป็นชาวยะไข่ด้วยกันแต่มาจากเมืองอื่นๆ

ในทางกลับกัน สถานการณ์ท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ได้นำพาปัญหาใหม่เข้ามาสู่ชุมชนตามแนวลำน้ำเล-มโร เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มักทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง หลายคนทิ้งสิ่งของลงในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำสกปรก ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านใน 40 ชุมชน ที่ในชีวิตประจำวัน ต้องพึ่งพิงน้ำจากแม่น้ำเล-มโร เป็นหลัก

โก่ อ่อง ข่าย โซ เจ้าหน้าที่จากบริษัทนำเที่ยวอิงสะนะ รวมถึงชาวมรัคอูอีกหลายคน ต่างเรียกร้องให้ทุกฝ่ายต้องตื่นตัว ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวห้ามทิ้งขยะลงในน้ำ เพื่ออนุรักษ์แม่น้ำเล-มโร ให้คงความสวยงามและสะอาด และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังเมืองมรัคอูต่อเนื่องอีกในอนาคต


มรัคอูเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอาระกันที่ยิ่งใหญ่ในอดีตเมื่อประมาณ 500 ปีก่อน และเป็นเมืองที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเต็มไปด้วยโบราณสถานจำนวนมาก

ในปี 2562 ก่อนโควิด-19 จะระบาด รัฐบาลเมียนมามีแผนจะเสนอต่อองค์การยูเนสโก เพื่อขอขึ้นทะเบียนเมืองมรัคอูเป็นมรดกโลก และในช่วงที่ AA ยังสู้รบอยู่กับกองทัพพม่า ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างหลีกเลี่ยงไม่ให้การปะทะกันแต่ละครั้ง ส่งผลกระทบต่อโบราณสถานที่อยู่ในเมืองมรัคอู หลังการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ รัฐยะไข่เป็นพื้นที่ซึ่งมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ในเมียนมา










กำลังโหลดความคิดเห็น