เอพี - ญี่ปุ่นและเวียดนามลงนามข้อตกลงเพื่อร่วมมือในด้านการป้องกันทางอวกาศและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ความเคลื่อนไหวที่เป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ทางทหารอย่างรวดเร็วของสองประเทศท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการรุกรานที่เพิ่มขึ้นของจีน
โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นกล่าวกับนักข่าวว่าข้อตกลงด้านอวกาศและไซเบอร์สเปซ มีเป้าหมายที่จะจัดการกับ “ความรู้สึกเร่งด่วน” เกี่ยวกับกิจกรรมในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่ท้าทายระเบียบกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศที่มีอยู่ ความเห็นที่บ่งชี้ถึงจีนโดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศใด
คิชิกล่าวว่าการเจรจาหารือกับคู่เจรจา พล.ท.อาวุโส ฟา วัน ซาง รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนาม ได้นำความร่วมมือด้านการป้องกันระหว่างสองประเทศก้าวไปสู่ระดับใหม่
โตเกียวมักประท้วงการปรากฎตัวของหน่วยยามฝั่งจีนใกล้หมู่เกาะเซ็งกากุ ที่จีนอ้างสิทธิ์และเรียกว่าหมู่เกาะเตียวหยู ซึ่งเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกล่าวว่าเรือของจีนมักละเมิดน่านน้ำของญี่ปุ่นรอบหมู่เกาะดังกล่าว และบางครั้งก็คุกคามเรือประมง
คิชิยังกล่าวว่าเขาได้แสดงความกังวลถึงการยกระดับของกิจกรรมทางทหารร่วมกันของจีนและรัสเซียใกล้น่านน้ำและน่านฟ้าของญี่ปุ่น
คิชิกล่าวว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6 ของจีน 2 ลำ และ Tu-95 ของรัสเซียอีก 2 ลำ บินจากทะเลญี่ปุ่นไปยังทะเลจีนตะวันออก และไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก และก่อนหน้านี้ เครื่องบินรบของจีนและรัสเซียเคยบินรอบญี่ปุ่นด้วยกันถึง 2 ครั้งในปี 2561
ระหว่างการหารือกับคู่เจรจาเวียดนาม คิชิได้แสดงการคัดค้านต่อต้านอย่างรุนแรงต่อความพยายามเพียงฝ่ายเดียวใดๆ ก็ตาม ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ด้วยการบีบบังคับ หรือกิจกรรมใดๆ ที่ยกระดับความตึงเครียด ซึ่งอ้างถึงกิจกรรมรุกรานที่เพิ่มขึ้นของจีนในทะเลตะวันออกและทะเลจีนใต้
ญี่ปุ่นมุ่งมั่นที่จะปกป้องภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่มีความเสรีและเป็นประชาธิปไตย และร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่มีค่านิยมสากลร่วมกัน
ข้อตกลงในวันนี้ (23) เกิดขึ้นเพียง 2 เดือนหลังจากสองประเทศบรรลุข้อตกลงที่จะอนุญาตให้ญี่ปุ่นจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีการป้องกันให้กับเวียดนาม
เวียดนามเป็นประเทศที่ 11 ที่ญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงการถ่ายโอนเทคโนโลยีและอาวุธยุทโธปกรณ์ ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังพยายามหาทางสนับสนุนอุตสาหกรรมการป้องกันของตนเอง นอกจากนี้ ยังมองหาการขยายความร่วมมือทางทหารนอกเหนือไปจากสหรัฐฯ ที่เป็นพันธมิตร และได้ลงนามข้อตกลงที่คล้ายกันนี้กับอังกฤษ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย.