รอยเตอร์ - กัมพูชาประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนสำหรับเหล่าคนงานในภาคอุตสาหกรรมผลิตเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าของประเทศ 2 ดอลลาร์ รวมเป็น 194 ดอลลาร์ (ประมาณ 6ฐ546 บาท) โดยมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 แต่ตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่สหภาพแรงงานต้องการที่ 12 ดอลลาร์
ค่าแรงของคนงานโรงงานเป็นสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาต้องพยายามรักษาสมดุลเพื่อให้ต้นทุนสามารถแข่งขันได้สำหรับนักลงทุนและแบรนด์สินค้าต่างๆ ขณะเดียวกัน สร้างความพึงพอใจให้สหภาพแรงงานที่มีอิทธิพลที่เป็นตัวแทนของเหล่าแรงงานกว่า 700,000 คน ซึ่งเคยผละงานประท้วงในหลายปีก่อน
อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มที่มีมูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีก่อนเกิดการระบาด เป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของครอบครัวในชนบท จากการผลิตเครื่องแต่งกายให้แบรนด์ต่างๆ ที่รวมทั้ง H&M Adidas Nike และ Gap
ปอ สีนา ประธานสหภาพแรงงาน Collective Union Movement of Workers กล่าวว่า ค่าแรงใหม่ที่กระทรวงแรงงานประกาศดังกล่าวยังคงทำให้แรงงานต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อดำเนินชีวิต
“เราขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด นายจ้าง และรัฐบาล พิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มค่าแรงให้คนงานมากขึ้น” ปอ สีนา กล่าวกับนักข่าว
อย่างไรก็ตาม กาง มุนีกา รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปกัมพูชา (GMAC) กล่าวว่า การเพิ่มค่าแรงอาจเป็นปัญหาต่อต้นทุนการดำเนินการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“แม้เพิ่มขึ้นเพียง 2 ดอลลาร์ ก็ส่งผลกระทบทางลบ” กาง มุนีกา กล่าวกับรอยเตอร์
กาง มุนีกา กล่าวว่า นายจ้างจะต้องจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญและค่ารักษาพยาบาล และมาตรการในที่ทำงานเพื่อรับมือกับโควิด-19 มากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงค่าตรวจ 4 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม นับจนถึงเมื่อเดือน เม.ย. เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอไม่ได้เป็นสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาอีกต่อไป โดยสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ใหม่อื่นๆ กำลังครองสัดส่วนเพิ่มขึ้น เช่น กระเป๋าเดินทาง ที่ปลอดภาษีในสหรัฐฯ ตามการระบุของธนาคารโลก
การส่งออกสินค้าสำหรับการเดินทางของกัมพูชาไปยังตลาดสหรัฐฯ มีมูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2563 เพิ่มขึ้น 3.6% จากปี 2562.