MGR Online - พม่ากำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง คนงานนับหมื่นต้องตกงาน เฉพาะเขตอุตสาหกรรมในหล่ายต่าหย่าเพียงย่านเดียว โรงงานปิดไปแล้ว 73 แห่ง ด้านเงินจั๊ตยังทำจุดต่ำสุดใหม่ แม้ธนาคารกลางระบายดอลลาร์ออกมาแล้ว 5 ครั้ง รวม 63 ล้านเหรียญ ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท เมียนมา ยูนีก (Myanmar Unique) โรงงานสิ่งทอ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมฉ่วย ลินปาน ย่านหล่ายต่าหย่า กรุงย่างกุ้ง ได้ประกาศปิดโรงงานชั่วคราว เนื่องจากไม่ได้รับออเดอร์สินค้ามาระยะหนึ่งแล้ว ส่งผลต่อแรงงานนับพันคนต้องตกงานไปโดยปริยาย
โรงงานเมียนมา ยูนีก เป็นของนักลงทุนชาวพม่า เปิดกิจการอยู่ในย่านหล่ายต่าหย่ามาแล้ว 5 ปี เริ่มเผชิญกับสถานการณ์ออเดอร์สินค้าที่ลดลงหลังเกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว กระทั่งเกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ต่อด้วยความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกรุงย่างกุ้ง จากสถานการณ์การเมืองที่ขาดเสถียรภาพ ออเดอร์สินค้าที่เคยส่งให้โรงงานเมียนมา ยูนีก หายไปเลย
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน บริษัทเฮงเหมา (เมียนมา) สิ่งทอ ของนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งตั้งโรงงานอยู่ในเขตอุตสาหกรรมฉ่วย ตานลวิน ย่านหล่ายต่าหย่า เช่นกัน ได้ประกาศปิดกิจการผ่านเพจเฟซบุ๊กของบริษัท ด้วยเหตุผลที่ไม่มีออเดอร์สินค้าเข้ามา ส่งผลให้แรงงานจำนวนกว่า 1,000 คน ต้องตกงานไปโดยทันที
เมียนมา ยูนีก และเฮงเหมา (เมียนมา) เป็นเพียง 2 ตัวอย่างของโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ในย่านหล่ายต่าหย่าที่ต้องปิดตัวลง อันเป็นผลจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากวิกฤตการเมือง
ย่านหล่ายต่าหย่า เป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรม 3 แห่ง ประกอบด้วย เขตอุตสาหกรรมหล่ายต่าหย่า เขตอุตสาหกรรมฉ่วย ตานลวิน และเขตอุตสาหกรรมฉ่วย ลินปาน โรงงานที่ตั้งอยู่ใน 3 เขตอุตสาหกรรมนี้ ส่วนใหญ่เป็นโรงงานสิ่งทอ ตัดเย็บ และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งต้องอาศัยแรงงานคนเป็นจำนวนมาก
Eleven Media Group มีรายงานเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) โดยได้สัมภาษณ์ผู้บริหารเขตอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่งในย่านหล่ายต่าหย่า พบว่านับแต่เกิดการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้มีโรงงานอุตสาหกรรมอย่างน้อย 73 แห่ง ที่ได้ปิดตัวลงไปแล้ว
โดยในเขตอุตสาหกรรมหล่ายต่าหย่า มีโรงงาน 29 แห่ง ที่แจ้งมายังฝ่ายบริหารเขตอุตสาหกรรมฯ ว่าขอปิดโรงงานชั่วคราว และได้จ่ายเงินชดเชยให้คนงานครบถ้วนตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
ส่วนในเขตอุตสาหกรรมฉ่วย ตานลวิน มีโรงงาน 9 แห่ง ที่ปิดตัวลง บางแห่งแจ้งมาว่าขอปิดโรงงานชั่วคราว ขณะที่อีกบางแห่งแจ้งปิดกิจการถาวร และได้ย้ายเงินลงทุนไปยังที่อื่น
แรงงานอย่างน้อย 3,000 คน ในเขตอุตสาหกรรมฉ่วย ตานลวิน ได้รับผลกระทบต้องตกงานจากการปิดตัวลงของโรงงานทั้ง 9 แห่ง
ในเขตอุตสาหกรรมฉ่วย ลินปาน มีโรงงาน 35 แห่งปิดตัวลงไปแล้ว ในนี้ 30 แห่งแจ้งว่าเป็นการปิดโรงงานชั่วคราว ส่วนอีก 5 แห่ง แจ้งว่าขอปิดกิจการถาวร และในจำนวน 35 โรงงาน มี 10 แห่ง อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ จำนวนแรงงานที่ต้องตกงานจากการปิดตัวของโรงงานทั้ง 35 แห่ง มีประมาณ 10,000 คน
สำนักข่าว Khit Thit Media รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 27 กันยายน ค่าเงินจั๊ตยังคงอ่อนตัวลงทำสถิติต่ำสุดใหม่ ที่ 2,300 จั๊ตต่อ 1 ดอลลาร์ จากเมื่อวันศุกร์ที่อ่อนลงไปต่ำสุดที่ 2,165 จั๊ต
ธนาคารกลางเมียนมา (Central Bank of Myanmar : CBM) ยังคงแทรกแซงโดยใช้วิธีระบายเงินดอลลาร์เข้ามาในตลาด เพื่อหวังเพิ่มปริมาณเงินดอลลาร์และดึงเงินจั๊ตให้แข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 27 กันยายน CBM ได้ขายดอลลาร์ออกมาอีก 15 ล้านดอลลาร์
นับแต่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ประกาศทำสงครามกับรัฐบาลทหารเมื่อวันที่ 7 กันยายนเป็นต้นมา CBM ได้ขายดอลลาร์เข้ามาในตลาดแล้วถึง 5 ครั้งด้วยกัน รวมเป็นเงิน 63 ล้านดอลลาร์ และนับแต่เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 27 กันยายน CBM ได้ขายดอลลาร์ออกมาแทบทุกเดือน (เว้นเดือนมีนาคมเดือนเดียว) คิดเป็นยอดรวมเงินดอลลาร์ที่ CBM ขายออกมาแล้วทั้งสิ้น 184.8 ล้านดอลลาร์.