เอเอฟพี - พระสงฆ์พม่าที่สนับสนุนประชาธิปไตยลงถนนเดินขบวนประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศวันนี้ (25) ซึ่งเกิดขึ้นตรงกับวันครบรอบ 14 ปี การชุมนุมประท้วงใหญ่ภายใต้การนำของพระสงฆ์ครั้งก่อน
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายและเศรษฐกิจของประเทศเป็นอัมพาตนับตั้งแต่เดือน ก.พ. เมื่อกองทัพขับไล่รัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจี ที่ยุติการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ดำเนินมาได้เพียง 10 ปี
การต่อต้านรัฐบาลทหารหยั่งรากไปทั่วประเทศ ที่ทำให้ทหารออกมาดำเนินการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างโหดร้าย พลเรือนถูกสังหารมากกว่า 1,100 คน และถูกจับกุมตัว 8,400 คน ตามการระบุของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น
ตามประวัติศาสตร์ พระสงฆ์ในพม่าถูกมองว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดทางด้านศีลธรรม จัดระเบียบชุมชน และบางครั้งก็ระดมการต่อต้านการปกครองของทหาร แต่การรัฐประหารครั้งนี้ได้เผยให้เห็นถึงความแตกแยกในหมู่สงฆ์ ที่บางรูปได้อำนวยอวยพรเหล่านายพล และบางรูปก็สนับสนุนผู้ชุมนุมประท้วง
ในวันเสาร์ (25) พระสงฆ์หลายสิบรูปได้ร่วมเดินขบวนไปตามถนนสายต่างๆ ของเมืองมัณฑะเลย์พร้อมธงและป้ายประท้วง
แกนนำการชุมนุมประท้วงกล่าวกับเอเอฟพีว่าพระสงฆ์ที่รักในความจริงยืนอยู่เคียงข้างประชาชน
กลุ่มพระสงฆ์ยังร่วมสวดภาวนาให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ที่รวมถึงสมาชิกในพรรคการเมืองของซูจี ที่ชนะการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.ปีก่อนอย่างถล่มทลาย และพระบางรูปได้ชูบาตรกลับหัวที่เป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงปฏิเสธการปกครองของรัฐบาลทหาร ที่เรียกตัวเองว่าสภาบริหารแห่งรัฐ
ในปี 2550 พระสงฆ์ได้เป็นผู้นำการชุมนุมประท้วงใหญ่ทั่วประเทศต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหารชุดก่อน การลุกฮือที่เริ่มขึ้นหลังจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน
การปฏิวัติผ้าเหลืองก่อให้เกิดวิกฤตความชอบธรรมอย่างรุนแรงต่อการปกครองระบอบเผด็จการที่ดำเนินมายาวนานถึง 35 ปีในขณะนั้น การชุมนุมประท้วงถูกตอบโต้ด้วยการปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม ที่ทำให้ผู้คนล้มตายไปอย่างน้อย 31 คน และพระสงฆ์หลายร้อยรูปถูกขับออกจากสมณเพศ และถูกจับกุม.