MGR Online - กลุ่มก่อการร้ายในพม่าปรับยุทธวิธีจากทำลายเสาส่งสัญญานโทรศัพท์มือถือมาระเบิดทางรถไฟ เผยช่วงไม่ถึงสัปดาห์รางรถไฟสายเหนือถูกวางระเบิดไปแล้ว 2 จุด ในภาคมัณฑะเลย์กับสะกาย ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเพราะเดินทางไปไหน-มาไหนได้ลำบาก
วานนี้ (19 ก.ย.) เวลาประมาณ 08.00น. เกิดเหตุวางระเบิดรถไฟขึ้นในภาคมัณฑะเลย์ โดยรถไฟขบวนที่ถูกระเบิดเป็นรถด่วนหมายเลข 12 วิ่งระหว่างสถานีย่างกุ้งปลายทางสถานีมัณฑะเลย์ ผู้ก่อเหตุได้ฝังระเบิดไว้ที่บริเวณรางรถไฟและจุดระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล
เหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่ขบวนรถด่วนซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมาด้วยประมาณ 100 คน กำลังวิ่งเข้าใกล้หลังไมล์ที่ 365/4 หมู่บ้านปัตตา อำเภอซิ่นก่าย จังหวัดเจ้าก์แส่ ภาคมัณฑะเลย์ กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้จุดระเบิดขณะรถไฟกำลังวิ่งผ่าน แรงระเบิดได้สร้างความเสียหายให้แก่หัวรถจักรและทำให้พนักงานขับรถ 1 คนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่ขบวนรถไม่ได้ตกราง จึงไม่มีผู้โดยสารที่ต้องได้รับบาดเจ็บตามไปด้วย
กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่อ้างตัวเองว่าเป็นกองกำลังปกป้องประชาชน (People’s Defence Force : PDF) ในเมียนมา ยังคงใช้กลยุทธในการต่อสู้กับรัฐบาลทหารด้วยการก่อวินาศกรรม วางระเบิดตามหัวเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะในกรุงย่างกุ้ง รวมถึงทำลายทรัพย์สินส่วนรวมที่ชาวบ้านจำเป็นต้องใช้
โดยจุดเริ่มต้นที่เป้าหมายของการทำลายเป็นเสาส่งสัญญานโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนที่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ได้ประกาศเป็นวันดี-เดย์เริ่มทำสงครามกับรัฐบาลทหารเป็นต้นมา มีเสาส่งสัญญานโทรศัพท์ทั่วประเทศถูกระเบิดทิ้งไปแล้วมากกว่า 20 ต้น สร้างความยากลำบากแก่การติดต่อสื่อสารระหว่างกันของชาวบ้าน
ต่อมาเป้าหมายของการทำลายเริ่มเปลี่ยนมาเป็นเส้นทางคมนาคมโดยเฉพาะทางรถไฟ โดยก่อนการวางระเบิดรถไฟที่มัณฑะเลย์เพียงไม่กี่วัน เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่ม PDF ได้เผยแพร่ภาพการระเบิดสะพานรถไฟหมายเลข 159 ในภาคสะกายไปตามสังคมออนไลน์ของเมียนมา
สะพานแห่งนี้เป็นสะพานข้ามคลอง ตั้งอยู่ช่วงจากสถานีทานตะบิ่นถึงสถานีหญ่องซิน ระหว่างหลักไมล์ที่ 473/4 ถึง 473/6 ในเมืองกั้นบะหลู่ จังหวัดกั้นบะหลู่ ภาคสะกาย บนเส้นทางรถไฟจากมัณฑะเลย์ไปยังเมืองมิตจีนา รัฐคะฉิ่น
แม้แรงระเบิดไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ตัวสะพาน แต่ได้ทำลายรางรถไฟจนขาด ทำให้รถทุกขบวนไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และการซ่อมแซมก็ทำได้ยาก เพราะทหารเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของช่างที่จะเดินทางเข้าไปซ่อม ชาวบ้านที่จำเป็นต้องสัญจรโดยทางรถไฟสายนี้ ต้องประสพกับความยากลำบากในการเดินทาง