รอยเตอร์ - แผนของทางการเวียดนามที่จะห้ามผู้อยู่อาศัยในนครโฮจิมินห์ออกจากบ้านตั้งแต่วันจันทร์ (23) ทำให้ประชาชนแห่ซื้อสินค้ากักตุนด้วยความตื่นตระหนกในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เลวร้ายที่สุดของประเทศ
สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่า สถานการณ์การแย่งชิงเพื่อซื้อสินค้าส่งผลกระทบต่อความพยายามที่จะควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ผู้คนยืนต่อแถวยาวเหยียดที่ด้านนอกตลาดและชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เกตในนครโฮจิมินห์เหลือแต่ความว่างเปล่า ตามการระบุของพยานและสื่อของรัฐ
“มันวุ่นวายมาก คนจำนวนมากต่างรีบออกไปซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นสำหรับวันที่ยากลำบากที่จะมาถึง ฉันได้อาหารบางอย่างมาเพราะไม่อยากตายจากความหิวโหยก่อนที่จะตายจากเชื้อไวรัส” ชาวเมืองจากเขต 2 ของนครโฮจิมินห์ กล่าวกับรอยเตอร์
เวียดนามระบุเมื่อวันศุกร์ (20) ว่า จะส่งกำลังทหารลงพื้นที่เพื่อควบคุมการล็อกดาวน์และจัดส่งเสบียงอาหารให้ประชาชน หลังจากเมืองหันมาใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อชะลออัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
และในวันนี้ (21) เวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ถึง 11,321 คน โดยเคสผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ และ จ.บิ่งเซวือง ที่อยู่ติดกัน ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุข โดยจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมของประเทศอยู่ที่ 336,700 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างน้อย 7,540 คน
“นครโฮจิมินห์พร้อมแล้วกับมาตรการต่างๆ ในการจัดส่งอาหารและสินค้าจำเป็นสำหรับผู้อยู่อาศัย” ฟาน วัน มาย รองหัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ของเมือง กล่าว
เมื่อวันศุกร์ (20) พรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองเวียดนามได้ประกาศตัดสินใจให้ทำหน้าที่แทน เหวียน แถ่ง ฝ่อง ที่เป็นประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ โดยไม่ได้ให้เหตุผล แต่นักวิเคราะห์อ้างว่าเป็นเพราะการรับมือการระบาดที่ย่ำแย่ของเขา.