ซินหวา - ทางการกัมพูชาออกข้อบังคับให้ชาวกัมพูชาทั่วประเทศต้องสวมหน้ากากอนามัย ในขณะที่มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 556 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 14 คนในวันนี้ (17)
ในคำแถลงที่เผยแพร่เมื่อค่ำวันจันทร์ (16) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎข้อบังคับการสวมหน้ากากอนามัยเพิ่มในอีก 15 จังหวัด ทำให้ทั้ง 25 เมือง และจังหวัดของประเทศอยู่ภายใต้ข้อบังคับนี้
“ข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางกายภาพห่างกัน 1.5 เมตร มีผลปฏิบัติตั้งแต่บัดนี้ไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม” รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ระบุ
รัฐมนตรียังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดำเนินการให้แน่ใจว่าการดำเนินการตามข้อกำหนดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และภายใต้กฎระเบียบนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนครั้งแรกจะได้รับคำเตือน หากกระทำผิดซ้ำจะถูกปรับ 50-250 ดอลลาร์สหรัฐ
กัมพูชากำลังรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. โดยจนถึงขณะนี้ ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันสะสม 86,597 คน และมีผู้เสียชีวิต 1,718 คน ตามคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุข
ประเทศเริ่มขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 ก.พ. โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชน 12 ล้านคน หรือ 75% ของประชากร 16 ล้านคนภายในเดือน พ.ย. และจนถึงวันที่ 16 ส.ค. มีประชาชน 9.04 คน หรือ 56.5% ของประชากรทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และจากจำนวนดังกล่าว มี 7.36 ล้านคน หรือ 46% ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.