เอเอฟพี - ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจพม่าจะหดตัว 18% ในปีนี้ ที่เป็นผลจากความไม่สงบหลังการรัฐประหารและการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
พม่าตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายนับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจในเดือน ก.พ. และดำเนินการปราบปรามผู้เห็นต่างที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 900 คน ตามการระบุของกลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่น
ขบวนการอารยะขัดขืนยังทำให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาต ด้วยธนาคารหลายแห่งต้องปิดทำการ และทางการไม่สามารถออกใบแจ้งหนี้หรือเรียกเก็บภาษีได้
ธนาคารโลกระบุว่า ด้วยได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ก่อนแล้ว คาดว่าเศรษฐกิจของพม่าจะหดตัวลง 18% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.
นอกจากนี้ การปิดระบบ การผละงานประท้วง และการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตยังทำให้สภาพคล่องลดลงและทำให้ภาคธนาคารถูกจำกัด ขณะที่เงินจ๊าตอ่อนค่าลงราว 23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
การหดตัวดังกล่าวหมายความว่าเศรษฐกิจของพม่าเล็กลงกว่าช่วงที่ยังไม่มีการระบาดของโควิด-19 และการยึดอำนาจของกองทัพ ราว 30%
ขณะเดียวกัน สัดส่วนของประชากรที่อาศัยอยู่ในความยากจนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในต้นปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2562
นักลงทุนต่างเข้ามาลงทุนในพม่าหลังทหารคลายอำนาจที่ยึดกุมไว้ในปี 2554 เพื่อปูทางสู่การปฏิรูปประชาธิปไตยและการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในประเทศที่มีประชากรมากกว่า 50 ล้านคน แต่นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร นักลงทุนต่างชาติหลายรายได้ระงับการดำเนินการหรือถอนตัวออกจากประเทศ เช่น บริษัทเทเลนอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของนอร์เวย์ได้ประกาศเมื่อต้นเดือนว่ากำลังขายบริษัทย่อยในพม่า ที่เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำในประเทศ ที่มีลูกค้าโทรศัพท์มือถือ 18 ล้านราย
รัฐบาลทหารให้เหตุผลในการเข้ายึดอำนาจว่าเป็นวิธีที่จะปกป้องประชาธิปไตย ด้วยกองทัพกล่าวหาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งเกิดขึ้นในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. ที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของอองซานซูจีเป็นฝ่ายคว้าชัย.
