MGR Online - สำนักงานขนส่งฯ นครหลวงเวียงจันทน์ วางมาตรการเข้มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 มาทำงาน ติดต่องาน หรือมาใช้บริการโดยเด็ดขาด หลังเจอระบาดระลอก 2 อย่างรวดเร็ว เผย 8.66% ของประชากรลาวขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนแล้ว
วานนี้ (17 พ.ค.) บุนปอน บุนสมหวัง หัวหน้ากองคุ้มครองพาหนะและการขับขี่ นครหลวงเวียงจันทน์ สังกัดกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ได้ออกหนังสือแจ้งการ เลขที่ 0401/กคพข.นว เรื่อง การปฏิบัติมาตรการเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
หนังสือฉบับนี้ได้แจ้งถึงรัฐกร พนักงานของรัฐ ตำรวจ ทหาร นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงาน ประชาชนลาว ชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ที่ไม่มีสัญชาติที่อาศัยอยู่ใน สปป.ลาว ทุกคนได้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จะไม่อนุญาตให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาทำงาน มาติดต่องาน หรือมาใช้บริการที่สำนักงานทั้ง 3 แห่งของกองคุ้มครองพาหนะและการขับขี่ ในนครหลวงเวียงจันทน์ ได้แก่ สำนักงานทุ่งป่ง สำนักงานสาขาเมืองนาซายทอง (น้ำซ่วง) และสำนักงานสาขาเมืองไซทานี
สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ให้นำใบรับรองการฉีดวัคซีนติดตัวมาทุกครั้ง เพื่อความสะดวกในการใช้บริการของกองคุ้มครองพาหนะและการขับขี่ นครหลวงเวียงจันทน์
ลาวได้เผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่รุนแรงและรวดเร็ว หลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นมา จากที่เกือบได้เป็นประเทศเดียวบนภาคพื้นทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปลอดจากโควิด-19 กลับต้องเจอกับยอดผู้ป่วยสะสมที่พุ่งขึ้นมากกว่า 1,600 คนในเวลาเพียง 1 เดือน
วันที่ 10 เมษายน 2564 ลาวเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังนอนรักษาตัวอยู่เพียง 2 คน จากยอดผู้ป่วยสะสม 49 คน โดยไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ล่าสุด เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ลาวพบผู้ป่วยยืนยันใหม่อีก 47 คน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มเป็น 1,638 คน รักษาหายแล้ว 582 คน กำลังรักษาตัว 1,054 คน และเสียชีวิตแล้ว 2 ราย
พื้นที่ซึ่งพบการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด คือ นครหลวงเวียงจันทน์ มีผู้ป่วยสะสม 805 คน รองลงมาเป็นแขวงบ่อแก้ว 428 คน และแขวงจำปาสัก 261 คน ส่วนแขวงอื่นที่เหลือ จำนวนผู้ป่วยสะสมยังเป็นตัวเลข 2 หลัก และมีแขวงหัวพันกับอัตตะปือ 2 แขวง ที่ยังไม่พบผู้ป่วยโควิด-19
เมื่อเย็นวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา วัคซีน Sinopharm 300,000 โดส ที่เป็นความช่วยเหลือจากจีนมอบให้แก่ลาว ได้ถูกส่งมายังสนามบินนานาชาติวัดไต โดยนับแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 ถึงปัจจุบัน ลาวได้รับวัคซีน Sinopharm จากจีนแล้ว 4 ครั้ง รวม 1,402,000 โดส
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 มกราคม รัสเซียได้ส่งวัคซีน Sputnik V ซึ่งผลิตโดยสถาบันวิจัย Gamaleya กรุงมอสโก แก่ลาวล็อตแรก 1,000 โดส ตามแผนการรัสเซียตั้งใจจะมอบวัคซีน Sputnik V ให้ลาวรวม 2 ล้านโดส และต่อมาวันที่ 20 มีนาคม โครงการ COVAX ได้ส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าล็อตแรกมาให้ลาว 132,000 โดส จากโควตาทั้งหมดที่ลาวจะได้รับ 480,000 โดส
จนถึงขณะนี้ยอดรวมวัคซีนโควิด-19 ทุกยี่ห้อ ที่ลาวได้รับมาแล้วจริง อันเป็นความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,535,000 โดส
ลาวเริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ประชาชนอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม จากนั้นได้กระตุ้นให้ประชาชนทุกคนที่พร้อมและไม่ติดเงื่อนไขด้านสุขภาพไปฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆ ที่รัฐจัดให้
ล่าสุด ณ วันที่ 16 พฤษภาคม มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในทุกแขวงทั่วประเทศลาวแล้ว 623,577 คน หรือ 8.66% ของประชากรรวม 7.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ได้รับการฉีดเข็มแรก 533,172 คน และได้ฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 90,405 คน.
