MGR Online - ผู้ส่งออกพม่าโวยกับสื่อรัฐ หลังถูกจำกัดให้ถอนเงินสดจากธนาคารได้แค่สัปดาห์ละ 20 ล้านจั๊ต ทำให้ขาดสภาพคล่อง ต้องหวนกลับไปพึ่ง “ฮุนดี” ระบบโพยก๊วนนอกกฎหมายดั้งเดิม เพื่อเสริมเงินสดหมุนเวียน
อู วิน ข่าย นายกสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพด พม่า ให้สัมภาษณ์กับ The Global New Light of Myanmar ซึ่งเป็นสื่อของรัฐเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า หลังกองทัพพม่าทำรัฐประหาร ผู้ส่งออกสินค้าของพม่าต่างประสบความยากลำบากในการทำธุรกิจ เนื่องจากธนาคารกลางพม่า (CBM) ได้จำกัดวงเงินที่สามารถถอนจากธนาคารพาณิชย์แต่ละสัปดาห์ไว้ต่ำมาก
โดยตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา CBM กำหนดให้เจ้าของบัญชีเงินฝากที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์ได้เพียงสัปดาห์ละไม่เกิน 2 ล้านจั๊ต หรือเฉลี่ยวันละ 2-5 แสนจั๊ตขึ้นกับแต่ละธนาคาร ส่วนเจ้าของบัญชีที่เป็นนิติบุคคลถอนได้สูงสุดไม่เกินสัปดาห์ละ 20 ล้านจั๊ต หรือประมาณ 4 แสนบาทเท่านั้น
วงเงินที่ถูกจำกัดลงมาอยู่ในระดับนี้มีผลต่อสภาพคล่อง และเงินสดหมุนเวียนของผู้ส่งออกสินค้า โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการส่งออกสูง เพราะแม้ผู้ซื้อที่ปลายทางจะโอนเงินมัดจำหรือเงินค่าสินค้ามาให้แล้วก็ตาม แต่ผู้ส่งออกไม่อาจถอนเงินสดออกมาได้อย่างเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายประจำแต่ละสัปดาห์ โดยเฉพาะการชำระค่าสินค้าที่ซื้อไว้เพื่อส่งออก
ขณะนี้ผู้ส่งออกสินค้าในพม่าหลายรายได้หวนกลับไปใช้วิธีการโอนเงิน ชำระค่าสินค้าด้วยระบบฮุนดี (Hundi) ซึ่งเป็นรูปแบบการโอนเงินสดข้ามประเทศที่ไม่ผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ปัจจุบันทางการพม่า โดย CBM ถือเป็นธุรกรรมการเงินที่ผิดกฎหมาย
“ฮุนดี” คือการโอนส่งเงินระหว่างกันโดยอาศัยตัวบุคคลที่เป็นนายหน้า ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมทั้งภายในและนอกประเทศ แบบเดียวกับระบบโพยก๊วนที่นักธุรกิจไทยเคยใช้เมื่อหลายสิบปีก่อน ผู้โอนเงินจะติดต่อกับนายหน้าในพื้นที่ ระบุจำนวนเงินและปลายทางที่ต้องการโอน นายหน้าจะติดต่อกับเครือข่ายในพื้นที่ของผู้รับโอนเพื่อให้นำเงินสดไปจ่าย โดยนายหน้าจะคิดค่าธรรมเนียมการจัดการตามอัตราที่ตกลง
คำว่า “ฮุนดี” มาจากชื่อเรียกระบบการชำระเงินซึ่งถูกพัฒนาขึ้นในอินเดีย ตั้งแต่สมัยที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และเมื่ออังกฤษได้เข้าครอบครองพม่า ได้นำระบบนี้มาใช้ด้วย ต่อมาภายหลังแม้ว่าพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว แต่การโอนเงินโดยไม่ผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ในพม่าต่างถูกเรียกเป็นฮุนดีทั้งหมด
ฮุนดียังเป็นวิธีการส่งเงินกลับบ้าน ที่แรงงานพม่าซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทยนิยมใช้กันเป็นหลักมานานหลายสิบปี โดยเฉพาะช่วงที่พม่าปกครองโดยระบอบเผด็จการทหาร ซึ่งระบบธนาคารพาณิชย์ไม่มีความน่าเชื่อถือ จนเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ที่ธนาคารพาณิชย์ในพม่าเริ่มพัฒนาขึ้น แรงงานเหล่านี้จึงค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนมาใช้วิธีโอนเงินกลับบ้านผ่านธนาคารพาณิชย์
ในยุคประธานาธิบดีเต็งเส่ง ที่ต้องการพัฒนาระบบการเงินการธนาคารในพม่า เปิดให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์แก่กลุ่มทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายกลุ่ม ได้มีการกำหนดนิยามฮุนดีว่าเป็นธุรกรรมเงินที่ผิดกฎหมาย CBM ให้เหตุผลว่าระบบฮุนดีมีความเสี่ยง และนายหน้าแต่ละรายคิดค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงเกินไป ระบบนี้จึงเริ่มเสื่อมความนิยม
สำหรับสาเหตุที่ CBM ต้องจำกัดวงเงินถอนเงินสดจากธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากช่วงแรกหลังการรัฐประหาร มีประชาชนจำนวนมากแห่ไปถอนเงินสดออกจากธนาคารพาณิชย์ ทำให้ CBM เกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน การธนาคารของประเทศ จึงสั่งจำกัดวงเงินที่สามารถถอนได้ในแต่ละสัปดาห์ขึ้น
นอกจากนี้ ยังเนื่องมาจากพนักงานธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้เข้าร่วมกระบวนการหยุดงานประท้วงการรัฐประหาร ทำให้หลายธนาคารต้องปิดการให้บริการในหลายสาขา เพราะมีพนักงานมาทำงานไม่เพียงพอ.