รอยเตอร์ - กองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) หนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพม่า เผยวันนี้ (3) ว่ากลุ่มได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งตก หลังยิงตอบโต้การโจมตีทางอากาศของกองทัพพม่า
สหประชาชาติประเมินว่า มีพลเรือนหลายหมื่นคนหลบหนีออกจากบ้านเรือนของตนเองที่เป็นผลจากการสู้รบระหว่างทหารและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ในพื้นที่ชายแดนห่างไกลทางเหนือและทางตะวันออกของประเทศ
ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นหลังนายพลพม่าเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.
นอ บู หัวหน้าหน่วยข้อมูลของ KIA กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกเมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้เมืองโมเมาะ ในรัฐกะฉิ่น
“สภาทหารเริ่มโจมตีทางอากาศในพื้นที่ตั้งแต่เวลาประมาณ 8-9 โมงเช้าของวันนี้ พวกเขาใช้เครื่องบินขับไล่ และยังยิงมาจากเฮลิคอปเตอร์ด้วย เราเลยยิงตอบโต้พวกเขา” นอ บู กล่าวผ่านทางโทรศัพท์ แต่ปฏิเสธที่จะระบุถึงอาวุธที่ใช้
สำนักข่าวมิซซิมาและกะฉิ่นเวฟ รายงานว่ามีเฮลิคอปเตอร์ตกพร้อมรูปถ่ายที่แสดงให้เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน
ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ปฏิเสธจะเปิดเผยชื่อกล่าวทางโทรศัพท์ว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คนในโรงพยาบาล หลังกระสุนปืนใหญ่ตกใส่วัดในหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบรายงานได้อย่างอิสระและโฆษกทหารก็ไม่ตอบรับสายโทรศัพท์ที่ติดต่อเพื่อขอความเห็น
พม่าตกอยู่ในความวุ่นวายนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร ที่การชุมนุมประท้วงต่อต้านการปกครองของทหารเกิดขึ้นเกือบทุกวันทั่วประเทศ
เมื่อวันอาทิตย์ (2) กองกำลังความมั่นคงพม่าได้เปิดฉากยิงใส่การชุมนุมประท้วงบางที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ตามการรายงานของสื่อ
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า กองกำลังความมั่นคงได้สังหารผู้ชุมนุมประท้วงไปอย่างน้อย 765 คน นับตั้งแต่การรัฐประหาร แต่รอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันยอดผู้เสียชีวิตได้
ทหารระบุว่า พวกเขายึดอำนาจเนื่องจากข้อร้องเรียนของพวกเขาเกี่ยวกับการโกงที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. ซึ่งพรรคของซูจีชนะอย่างถล่มทลาย ไม่ได้รับการแก้ไขโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ระบุว่าการเลือกตั้งมีความยุติธรรมแล้ว
ทั้งนี้ ซูจียังคงถูกควบคุมตัวตั้งแต่การรัฐประหารพร้อมกับสมาชิกของพรรคอีกหลายคน.