เอเอฟพี - ชาวกัมพูชาที่สูญเสียครอบครัวระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดงต่างวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของศิลปินชาวไอริชที่เพิ่มรอยยิ้มดิจิทัลลงบนรูปขาวดำของเหยื่อที่ถูกเขมรแดงสังหาร
การปกครองของเขมรแดงระหว่างปี 1975-1979 ทำให้ชาวเขมรราว 2 ล้านคนต้องเสียชีวิตลงจากความอดอยาก การใช้แรงงานหนัก การทรมาน และการสังหารคนจำนวนมาก
เขมรแดงได้ถ่ายรูปเหยื่อไว้หลายพันคน ซึ่งรวมทั้งผู้ที่ถูกส่งตัวไปยังตวลสเลง หรือ S-21 อดีตโรงเรียนมัธยมในกรุงพนมเปญที่ถูกเปลี่ยนเป็นเรือนจำ
ประชาชนราว 15,000 คน ถูกสอบปากคำและทรมานที่นั่นก่อนถูกนำตัวไปประหารในทุ่งบริเวณใกล้เคียง
แมตต์ ลัฟเรย์ ศิลปินชาวไอริชได้เพิ่มสีสันให้แก่รูปขาวดำของเหยื่อที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่วนตัวของเขา แต่การเพิ่มรอยยิ้มลงในรูปเหยื่อบางคนที่ถูกสังหารก่อให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง
รูปภาพและบทสัมภาษณ์ของลัฟเรย์ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ข่าว Vice ในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งภายในกัมพูชาและบนสื่อสังคมออนไลน์
แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าบทความดังกล่าวจะถูกลบออกจากเว็บไซต์ในบ่ายวันอาทิตย์ (11) แต่ก่อนที่บทความจะถูกลบ VICE ได้เพิ่มข้อความไว้ว่า “เราสังเกตเห็นว่ารูปภาพที่เผยแพร่ในบทความนี้ได้รับการแก้ไขนอกเหนือจากการทำให้เป็นรูปสี เรากำลังตรวจสอบบทความและพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแก้ไข”
ผู้รอดชีวิตจาก S-21 รายหนึ่งที่สูญเสียพ่อแม่ที่เรือนจำดังกล่าว ระบุว่า โครงการของลัฟเรย์เป็นการดูถูกเหยื่อเขมรแดง
“ผมขอประณามการทำรูปให้เป็นสีเหล่านี้เพราะเหยื่อ S-21 ทุกคนไม่เคยมีความสุข พวกเรา เหยื่อที่เข้าไปใน S-21 ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ยิ้ม เราไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับรูปเหล่านั้น” นอง จัน พาล อายุ 52 ปี กล่าวกับเอเอฟพี
กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชากล่าวว่า กระทรวงพิจารณาว่าการปรับแต่งรูปของลัฟเรย์ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อศักดิ์ศรีของเหยื่อ รวมถึงความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ของประเทศ
กระทรวงระบุว่า โครงการของลัฟเรย์ยังละเมิดสิทธิของพิพิธภัณฑ์ตวลสเลง ในฐานะเจ้าของและผู้ดูแลรูปภาพตามกฎหมาย นอกจากนี้ กระทรวงยังเรียกร้องให้ลัฟเรย์และ VICE ลบรูปที่ถูกแก้ไข
“กระทรวงจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศหากแมตต์ ลัฟเรย์ ไม่ดำเนินการตามคำร้องข้างต้น” กระทรวงระบุในคำแถลง
ฮุน มานี ลูกชายคนเล็กของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวว่า เขารู้สึกตกใจเมื่อเห็นรูปที่ถูกแก้ไข
“มันแสดงให้เห็นอย่างชัดจนว่าบุคคลเหล่านั้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติไม่เข้าใจโศกนาฏกรรมที่เจ็บปวดของกัมพูชาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหยื่อที่ทนทุกข์ทรมานจากการทรมานและสังหารที่เรือนจำตวลสเลง” ฮุน มานี เขียนลงเฟซบุ๊ก.