รอยเตอร์ - กลุ่มสิทธิมนุษยชนประณามการจัดตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตสไตล์จีนในสัปดาห์นี้ของรัฐบาลกัมพูชา ที่จะอนุญาตให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดถูกควบคุมและถูกตรวจสอบ โดยกลุ่มสิทธิฯ ระบุว่า สิ่งนี้จะเป็นเครื่องมือใหม่สำหรับฮุนเซนในการปราบปรามฝ่ายค้าน
“นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้โจมตีเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและอีคอมเมิร์ซในกัมพูชา ด้วยการขยายการควบคุมของรัฐบาลกับอินเทอร์เน็ตของประเทศ” ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ภูมิภาคเอเชีย กล่าว
“เกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติของกัมพูชาเป็นเครื่องมือที่ขาดหายไปในกล่องเครื่องมือของรัฐบาลสำหรับการปราบปรามทางออนไลน์” โรเบิร์ตสัน ระบุในคำแถลง
ในกฤษฎีกาความยาว 11 หน้าที่ประกาศเมื่อวันพุธ (17) กำหนดให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องเปลี่ยนเส้นทางบริการผ่านเกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติภายในระยะเวลา 12 เดือน ก่อนเดือน ก.พ.2565
เกตเวย์ของกัมพูชาคล้ายกับของจีน พันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญของกัมพูชา ขณะที่ความสัมพันธ์ของกัมพูชากับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปย่ำแย่ลงในช่วงหลายปีมานี้
นอกจากนี้ กฤษฎีกายังกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องให้ผู้ใช้งานกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ด้วยข้อมูลประจำตัวที่ถูกต้อง และระบุว่าหากผู้ให้บริการล้มเหลวที่จะเชื่อมต่อเครือข่ายกับเกตเวย์ จะส่งผลให้ใบอนุญาตดำเนินการถูกระงับและบัญชีธนาคารถูกระงับ
พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า การตั้งเกตเวย์อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากกัมพูชายังไม่มีคำสั่งเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต และกล่าวเสริมว่า กฎข้อบังคับยังก้าวก่ายน้อยกว่าในสหรัฐฯ และอังกฤษ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลฮุนเซนเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติเกี่ยวกับการปราบปรามที่ทำลายภาคประชาสังคมและฝ่ายค้านทางการเมือง ที่เป็นผลให้พรรคของเขาผูกขาดอำนาจ รวมทั้งมีการตั้งข้อหาและจำคุกคู่แข่งหลายคน
เอเมอร์ลีน จิล จากองค์การนิรโทษกรรมสากล เรียกเกตเวย์ใหม่ของกัมพูชาว่าเป็นหายนะสำหรับสิทธิมนุษยชน
“จากบริบทของการปราบปรามผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เพิ่มขึ้น การดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนฝ่ายค้านจำนวนมาก และจำนวนนักโทษทางความคิดที่เพิ่มสูง ทำให้สถานการณ์นี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นพิเศษ” เอเมอร์ลีน จิล กล่าว.