รอยเตอร์ - อัตราการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในพม่าลดฮวบหลังการรัฐประหารที่ก่อให้เกิดการรณรงค์การอารยะขัดขืนภายใต้การนำของแพทย์ และการชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ทั่วประเทศ
จำนวนการตรวจหาเชื้อรายวันในคืนวันจันทร์ (8) อยู่ที่ 1,987 คนเท่านั้น ถือเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. เมื่อเทียบกับจำนวนมากกว่า 9,000 คน ในช่วงสัปดาห์ก่อน และเฉลี่ยมากกว่า 17,000 คนต่อวันในสัปดาห์ก่อนการรัฐประหารวันที่ 1 ก.พ.
นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร จำนวนการตรวจหาเชื้อต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 9,350 คน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบเมื่อวันจันทร์ (8) มีเพียง 4 คนเท่านั้น เทียบกับอัตราเฉลี่ยที่ 420 คนต่อวันในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค.
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น และในคำแถลงเมื่อวันจันทร์ (8) กระทรวงได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขช่วยรณรงค์การฉีดวัคซีน และร้องขอให้บุคลากรทางการแพทย์กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ของตนเองโดยคำนึงถึงสุขภาวะของผู้ป่วย
พม่าได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เลวร้ายที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมมากกว่า 141,000 คน และเสียชีวิต 31,177 คน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นด่านหน้าของการรณรงค์อารยะขัดขืนต่อต้านการรัฐประหาร หยุดงานเรียกร้องการปล่อยตัวอองซานซูจี และยอมรับชัยชนะของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในการเลือกตั้งเดือน พ.ย.
รัฐบาลของซูจีได้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่ช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัส และจำนวนผู้เสียชีวิตจากจุดสูงสุดในเดือน ต.ค. แต่อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนักกับประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ที่โค่นล้มและควบคุมตัวอองซานซูจี จนก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงของประชาชนจำนวนมาก ได้ให้คำมั่นในการกล่าวแถลงทางโทรทัศน์ครั้งแรกเมื่อคืนวันจันทร์ว่าจะให้ความสำคัญกับการต่อสู้กับโควิด-19 เป็นลำดับแรก รวมถึงการฉีดวัคซีนให้แก่ทุกคน
กองทัพเข้ายึดอำนาจจากข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตในการเลือกตั้งเมื่อปีก่อน ข้อกล่าวอ้างที่คณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิเสธ.